เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
































































ผู้เขียน หัวข้อ: motor show: MINI SE พลัง 218 แรงม้า แบตฯ ใหญ่ขึ้น ไปกลับ กทม.- สระบุรี ไหวมั้ย?  (อ่าน 128 ครั้ง)

siritidaphon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 208
  • บริการโพสต์ ช่วยให้ยอดขายท่านเพิ่มขึ้นได้อีกช่องทางหนึ่ง
    • ดูรายละเอียด
motor show: MINI SE พลัง 218 แรงม้า แบตฯ ใหญ่ขึ้น ไปกลับ กทม.- สระบุรี ไหวมั้ย?

New Mini Cooper SE พลังไฟฟ้าล้วน ดีไซน์ล้ำอนาคตกว่าเดิม อับเกรทใหม่เพิ่มพลังและระยะทางที่มากกว่า....มินิกลับมาปฏิวัติวงการยานยนต์ไฟฟ้าของไทยอีกครั้ง ในเจเนอเรชันที่ 5 พร้อมพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ในดีไซน์มินิมอลสุดล้ำ พร้อมสมรรถนะการขับขี่แบบ "Electrified Go-Kart" ที่ยังคงสนุก เร้าใจ สร้างนิยามใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดระดับพรีเมียม ยกระดับภาพลักษณ์ของมินิที่มีเอกลักษณ์ยิ่งขึ้น เปิดราคา 1,699,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา MSI Standard 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)

The new Mini Cooper SE รถยนต์ไฟฟ้าน้องเล็กอับเกรดเพิ่มพลังและระยะวิ่งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตันเมตร ความจุ 54.2 kWh หรือ 402 กม. WLTC ทดสอบเดินทางไปกลับ BMW Group Thailand Training Centre ปทุมธานี - The Barnery เดอะ บาร์นเนอรี่ สระบุรี ระยะทางรวม 171.2 กม. แบตฯ เหลือ 57% ระยะทางคงเหลือ 239 กม. จาก 402 ที่เคลมไว้นับว่าใกล้เคียงขับนอกเมืองวิ่งได้จริงอาจถึง 350 - 380 กม. !!
 

ภายนอก-ภายใน ความสะดวกสบาย
 
ภายนอกทรงเล็กกระทัดรัดมิติกว้าง ยาว สูง กว่ารุ่นเดิมทุกมิติ ทำให้นั่งสบายมีพื้นที่มากกว่าทั้งด้านหน้าและหลัง ไฟหน้าและไฟท้ายปรับการแสดงผลได้ตามโหมดรถยนต์ ไฟหน้าและหลังสามารปรับการแสดงผลได้ 3 แบบ Classic, Favoured และ John Cooper Works และล้ออัลลอย 18 นิ้ว ยาง 225/40R18 ซึ่งยางแต่ละล็อตจะมีคละกัน Michelin, Goodyear หรือ MAXXIS ติดมาแตกต่างกันไปแต่รับรองมาตรฐานด้านสมรรถนะทุกแบรนด์จาก BMW
 

ภายในมินิมอลได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความเรียบง่ายและความยั่งยืนควบคู่กัน โดยแผงหน้าปัด แผงประตู และฝาปิดช่องเก็บของต่าง ๆ ภายในรถล้วนผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 90% สวิตช์รวบคุมอยู่จอกลาง ขนาดใหญ่ แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนบนแสดงการขับขี่ ความเร็ว ระยะทาง ระดับแบตฯ ส่วนกลางเป็นความบันเทิง และล่างสุดปรับระบบแอร์ กับปุ่มทางลัดเมนูต่าง ๆ และสวิตช์ใต้จอกลาง รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แต่ถ้าใช้ Google map จอจะเหลือแนวยาวเท่านั้น ด้านบนและล่างจอจะดำ ให้ใช้งานแผนที่ติดรถจะดีกว่าเพราะบอกระดับแบตฯ คงเหลือเมื่อถึงปลายทางได้ด้วย
 
ระบบปฏิบัติการ MINI Operating System 9 แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่พัฒนาด้วยมือของทีมงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บนพื้นฐานของ Android Open Source Project (AOSP) เชื่อมต่อกับแพ็คเกจ MINI Navigation ขณะขับขี่เพื่อช่วยนำทางด้วยระบบคลาวด์ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายแบบ 5G ในตัว และยังสามารถแสดงภาพสามมิติเพื่อช่วยนำทางผ่านจุดเลี้ยวที่ซับซ้อนได้อย่างมั่นใจ ส่วน MINI Connected Store ยังมอบแอปพลิเคชันที่หลากหลาย ครบครันทั้งแอปเพื่อการใช้งานและความบันเทิง รวมถึงเกม แอปสตรีมเพลงและวิดีโอ
 
เมื่อลองขับด้วย 'Green Mode' จะตั้งค่ารถเป็นโหมดการขับขี่แบบมีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อเพิ่มระยะทางการขับขี่สูงสุด หรือจะใช้พลังงานคุ้มค่าและประหยัดมากขึ้น พร้อมกับคันเร่งที่หน่วงค่อย ๆ ตอนสนองอย่างช้า ๆ และสามารถช่วยเพิ่มระยะทางได้จริงเมื่อขับยาว ๆ นาน ๆ ในโหมดนี้ และถ้าต้องการใช้กำลังเร่งแซงก็แค่เพิ่มคันเร่ง พลังงานก็จะปล่อยเพิ่มตามที่ต้องการ โดยตอนขับประหยัดหน้าจอจะเป็นรูป "นกบิน" แต่เมื่อเพิ่มความเร็วจนเลยจุดที่ประหยัดก็จะเปลี่ยนเป็น "เสือ" สีขาวอ่อน ๆ และถ้าเหยียบคันเร่งมากขึ้นไปอีกเสือตัวนี้ก็จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้ม ๆ และเมื่อยกหรือถอนคันเร่งก็จะกลับมาเป็น "นกน้อย" อีกรั้ง
 
ปรับโหมดเพื่อเลือกแสงและเสียงในรถได้ 7 โหมด โดยเฉพาะ ‘Go-Kart Mode' จะเปลี่ยนชุดสีหน้าจอเป็นสีดำ Anthracite ผสมกับสีแดง และระบบไฟ ambient light สีแดง เติมความดุดันให้เข้ากับการขับขี่ในแบบสปอร์ตด้วยเสียงเครื่องยนต์จากรุ่นจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ที่ปรับแต่งมาเพื่อสร้างความเร้าใจโดยเฉพาะ
 
สามารถเลือก 3 รูปแบบ ได้แก่ Classic, Favoured และ JCW  พร้อมหน้าจอ OLED ก็คือผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ MINI Intelligent Personal Assistant ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในไทย พร้อมตอบสนองทุกคำสั่ง เพียงออกเสียงเรียกว่า “Hey MINI!” หรือจะเลือกกดปุ่มสั่งการด้วยเสียงบนพวงมาลัยก็สะดวกไม่แพ้กัน ซึ่งนอกจากแค่การรับคำสั่ง MINI Intelligent Personal Assistant ยังสามารถปรากฏตัวทักทายคุณบนหน้าจอ MINI Interaction Unit ในรูปของรถ “MINI” ที่เป็นหน้าตาแบบมาตรฐาน หรืออาจเลือกอัปเกรดผ่านแพ็คเกจ MINI Connected ให้เป็นน้องหมา “Spike” ได้ด้วย

 
ความสะดวกสบาย ด้วยหน้าจอ MINI Interaction Unit ทรงกลมขนาดใหญ่ที่แผงคอนโซลด้านหน้า ซึ่งเป็นจอแสดงผล OLED ความละเอียดสูง แสดงข้อมูลสำคัญของตัวรถ เช่น ความเร็วรถและสถานะแบตเตอรี่ ฯลฯ พร้อมระบบ Head-up Display แผนที่นำทางที่สามารถคำนวนระดับแบตฯ คงเหลือเมื่อถึงจุดหมายได้ แผงควบคุม Toggle Bar ดีไซน์ใหม่จากมินิรุ่นคลาสสิกเป็นสวิตช์ต่าง ๆ คือ เบรกมือ สวิตช์เลือกเกียร์ สวิตช์หมุนสตาร์ท/ดับเครื่อง สวิตช์สลับโหมด MINI Experience หรือปุ่มการควบคุมระดับเสียงเพลง
 

ระบบต่าง ๆ ที่น่าสนใจคือ ระบบช่วยจอด 3 รูปแบบ และการถอยอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อมีรถขณะถอยหลังพร้อมเบรก ระบบเบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold ที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง แท่นชาร์จไร้สาย ช่องชาร์จไฟ USB-C 2 จุดด้านหน้า ด้านหลังไม่จำเป็นเท่าไหร่นักเพราะน้อยครั้งที่จะมีคนนั่งหลัง
 

ขาดกลิ่นไอ “MINI COOPER" ไปบ้างในหลายส่วน
อย่างไรก็ตาม All new MINI COOPER SE คันนี้ให้สมรรถนะดีในหลายด้านอย่างที่ปฎิเสธยาก เพราะการเซทติ้งที่ BMW MINI ดูแลเอง จึงได้ความเป็น MINI เต็ม ๆ แต่สิ้งที่อ่จขาดหายไปจากกลิ่นไปเดิมคือ ดวงไฟหน้าและท้ายที่ปรับรูปทรงใหม่ ทำให้เมื่อมองไกล ๆ ลดความเป็นมินิลงไปและลดความโดดเด่น จากรุ่นดั้งเดิม มีความเหลี่ยมมาเกิน จนขาดเอกสักษณ์เฉพาะตัว ส่วนภาพในการตกแต่งวัสดุด้วย ผ้าลายถักและสายเข็มขัดแทรก ๆ ตามจุดต่าง ๆ เช่น คอนโซลหน้าฝั่งซ้ายและที่ด้านล่างพวงมาลัย ทำให้ขัดตากับความเป็นแบรนด์หรูพรีเมี่ยม (แล้วแต่มุมมองแต่ละคนด้วย)

นอกจากนี้ผิวสัมผัสของวัสดุแผงประตูหรือชุดลำโพง หรือตรงชุดแผงควบคุมใต้จอกลางที่ยื่น ๆ ออกมาและไม่ใช่ปุ่มแบบห้องคนขับเครื่องบินแบบเดิม ๆ ทำให้ลดความเป็น MINI เดิมลงไปหน่อยครับ ซึ่งถ้าใครไม่ติดใจและรับได้ในจุดเหล่านี้ และแลกกับสมรรถนะความปลอดภัยและแบรนด์ ”MINI“ ก็อาจจะมองข้ามไปได้สบาย ๆ ครับ
 

สมรรถนะ แรงจัด เกาะแน่น กระด้างน้อยลงกว่าเดิม!!
 
สมรรถนะความแรง หนึบ คมกระชับ และเด้งจนจุก ตามสไตล์ DNA MINI COOPER ที่ต้องได้ฟิวลิ่งแบบ Go-Kart รถและผู้ขับเป็นหนึ่งเดียว จะเลี้ยว เร่งจอด เข้าโค้งสั่งได้ดั่งใจ อัตราเร่งดึงโหด ๆ ออกตัวแบบไม่กระชากดึงหน้าหงาย และค่อย ๆ นวล  ๆ ช่วงกลาง ๆ ถึงปลาย ๆ รอบมอเตอร์ มาพร้อมเสียงสังเคราะห์เพิ่มความมันตามแต่โหมดที่เลือกขับ
 
การตอบสนองของคันเร่งไม่กระชากยังคงให้ความสมูทในสไตล์ยุโรป ไม่โวยวาย แต่เมื่อเพิ่มน้ำหนักเข้าไปอีก ก็จะรู้สึกถึงความแรง และแรงดึงแบบหลังติดเบาะ ที่ไม่มีอาการรอรอบกับพลังที่เพิ่มมากขึ้นกว่ารุ่นเดิม ทำให้การเร่งออกตัวหรือจะแซงทำได้ทันใจ นอกจากนี้ระบบเบนกก็มั่นใจเบรกได้อยู่สบาย ๆ พร้อมกับการปรับช่วงล่างที่กระชับแน่นหนึบเกาะถนนตามแบบฉบับ "MINI" ที่ยังมีให้อยู่เช่นเดิม

ระบบช่วงล่างหากในความเร็วต่ำมีความกระเด้งพอสมควรแต่เทียบกับรุ่นก่อนหน้ายังน้อยกว่า พอให้รู้สึกสบายตัวเวลาเดินทางยาว ๆ ส่วนความสูง ๆ กลับให้ความมั่นใจมาก ๆ เกาะถนนหนึบเหมือนพวกรถซิ่งปรับเปลี่ยนโช้คเกรดเรสซิ่งโหลดเตี้ย ให้อารมณ์สปอร์ตแบบไม่ต้องไม่แต่งอะไรเพิ่มแล้ว
 
การจัดสรรใช้พลังงานของ The New MINI Cooper SE ทำได้ดี จากจุดเริ่มต้น BMW Group Thailand Training Centre บางกะดี อำเภอเมืองปทุมธานี ถึงร้าน The Barnery หนองแซง สระบุรี ระยะทางไป-กลับ จากแบตเตอรี่ประมาณ 97% ระยะทางที่ขับได้ 313 กม. รวมระยะทางทั้งหมดเฉพาะคันที่ขับนั้น 171.7 กม. เมื่อกลับถึงจุดเริ่มต้นคงเหลือที่ 57% และระยะทางคงเหลือ 240 กม. และค่าพลังงานที่ใช้เฉลี่ยรวมเพียง 12.3 kWh/100 กม. เท่านั้น นับว่าประหยัดไฟเกินคาดเมื่อเทียบกับพลังมอเตอร์ไฟฟ้าระดับ 218 แรงม้า แรงบิด 330 นัวตันเมตร ถือว่าใช้พลังงานไปได้อย่างคุ้มค้ามาก ๆ ครับ 
 
 
ความปลอดภัย

ระบบความปลอดภัยที่ได้ลองใช้ก็มีระบบเตือนพร้อมดึงกลับเมื่อออกนอกเลน ทำงานได้สมูทไม่กระชากมากนัก ระบบควบคุมความเร็วแปรผันก็ให้ความสมูทเช่นกัน จะเร่งหรือเบรก ๆ มากระชาก ไม่มึนหัว และทำงานแม่นยำมาก ๆ แต่ติดตรงระยะห่างระหว่างคันหน้าที่เยอะพอสมควรและแอบเสียดายที่ยังหาปุ่มปรับระยะไม่เจออีกด้วย และน่าเสียดายที่ไม่มีกล้องรอบคัน มีเพียงกล้องมองถอยหลังกับเส้นกะระยะเซ็นเจอร์ช่วยจอดไว้ดูเท่านั้นครับ
 
รวมถึงฟังก์ชันจอดรถอัตโนมัติอย่าง Parking Assistant และแพ็คเกจ Driving Assistant ซึ่งสามารถเลือกอัปเกรดเป็น Driving Assistant Plus ที่มาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) โดยลูกค้าสามารถเลือกสมัครได้ในแบบ 1 เดือน 1 ปี 3 ปี และตลอดอายุการใช้งาน ส่วนฟีเจอร์กุญแจรถดิจิทัล MINI Digital Key Plus ยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายอีกระดับ ด้วยการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนและสมาร์ทวอชให้เป็นกุญแจรถ ซึ่งสามารถเปิดใช้งาน Welcome Light ได้โดยอัตโนมัติเมื่อเจ้าของรถอยู่ในระยะ 3 เมตรจากตัวรถ และสามารถปลดล็อคประตูอัตโนมัติเมื่อเดินเข้ามาในระยะ 1.5 เมตร รวมไปถึงการสตาร์ทเครื่องยนต์เมื่อนั่งอยู่ในตำแหน่งพร้อมจะออกเดินทาง นอกจากนี้ยังสามารถส่งต่อ Digital Key ให้เพื่อนหรือคนในครอบครัวได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย
 


สรุปความคุ้มค่า
 
เจ้าหนู MINI SE ราคาจำหน่าย 1,699,000 บาท นับว่าไม่ได้เหมาะกับทุกคน แต่เจาะจงเฉพาะผู้หลงไหลในความเป็น "มินิ" รูปลักษณ์ที่มีความเป็นตัวเองสูง และต่อยอดด้วยเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าล้วนที่ขยับความแรงและระยะทางให้ตอบสนองการใช้งานที่สะดวกสบายมากขึ้น แน่นอนว่าคู่แข่งในหลาย ๆ รุ่น อาจมีค่าตัวที่พอ ๆ กันหรือสูงกว่าเล็กน้อย หรืออจได้รถที่มีไซซ์ใหญ่ขึ้น อเนกประสงค์กว่า แต่อย่าลืมว่านี่คือ "มินิ" รถยนต์ที่ให้อารมณ์ขับขี่ในแบบที่ไม่มีใครเลียนแบบได้นะครับ 
 

สำหรับใครที่เล็งรถยนต์ไฟฟ้าจากค่ายยุโรปที่มีเอกลักษณืเฉพาะตัว ไม่มีใครแทนได้ต้องเป็น MINI SE เท่านั้น ที่จะได้ฟิวลิ่งแบบ Electrified Go-Kart ทั้งเกาะ แน้น หนึบ และแรงขับมันสไตล์ "มินิ" อย่างแท้จริง แม้จะมีระยะทางวิ่งไม่มากนัก แต่ก็นับเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เน้นใช้งานทุกวันในเมือง คล่องตัว จอดง่าย และให้ความเป็นส่วนตัวแบบ 2 ต่อ 2 ตอบสนองการใช้งานของหนุ่มสาวหรือผู้ที่ชอบความคล่องตัว และราคาที่ต่ำกว่ารุ่นก่อนหน้าแต่ได้สมรรถนะและเทคโนโลยีเทียบเท่าหรือดีกว่าเดิมด้วยซ้ำไปครับ