เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
































































ผู้เขียน หัวข้อ: บริหารจัดการอาคาร: การติดตั้งระบบดับเพลิงในอาคาร  (อ่าน 11 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 476
  • บริการโพสต์ ช่วยให้ยอดขายท่านเพิ่มขึ้นได้อีกช่องทางหนึ่ง
    • ดูรายละเอียด
บริหารจัดการอาคาร: การติดตั้งระบบดับเพลิงในอาคาร

การติดตั้งระบบดับเพลิงในอาคารเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องเป็นไปตามมาตรฐานทางวิศวกรรม กฎหมาย และข้อบังคับท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าระบบจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้จริง

วัตถุประสงค์หลักของการติดตั้งระบบดับเพลิง
ปกป้องชีวิต: เป็นเป้าหมายสูงสุดของการติดตั้งระบบดับเพลิง โดยการแจ้งเตือนและควบคุมเพลิงไหม้เพื่อให้ผู้คนมีเวลาอพยพได้อย่างปลอดภัย
ปกป้องทรัพย์สิน: ลดความเสียหายต่อโครงสร้างอาคาร, อุปกรณ์, ข้อมูล และทรัพย์สินมีค่า
รักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจ: ลดระยะเวลาการหยุดชะงักของการดำเนินงานหลังเกิดเหตุ
ปฏิบัติตามกฎหมาย: การติดตั้งตามมาตรฐานเป็นข้อกำหนดทางกฎหมายและเงื่อนไขการประกันภัย
ประเภทของระบบดับเพลิงหลักๆ ที่นิยมติดตั้งในอาคาร
โดยทั่วไป ระบบดับเพลิงในอาคารจะประกอบด้วยหลายองค์ประกอบที่ทำงานร่วมกัน:

ระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ (Fire Alarm System):

หน้าที่: ตรวจจับเพลิงไหม้ แจ้งเตือนผู้ที่อยู่ในอาคาร และส่งสัญญาณไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อุปกรณ์หลัก:
ตู้ควบคุมสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ (Fire Alarm Control Panel - FACP): เป็นศูนย์กลางของระบบ
อุปกรณ์ตรวจจับ (Detectors):
เครื่องตรวจจับควัน (Smoke Detector): แบบ Photoelectric หรือ Ionization
เครื่องตรวจจับความร้อน (Heat Detector): แบบ Fixed Temperature หรือ Rate-of-Rise
เครื่องตรวจจับเปลวเพลิง (Flame Detector): สำหรับพื้นที่พิเศษ
อุปกรณ์แจ้งเหตุด้วยมือ (Manual Pull Station / Manual Call Point): สำหรับผู้พบเห็นเหตุการณ์กดเพื่อแจ้งเตือน
อุปกรณ์ส่งสัญญาณแจ้งเหตุ (Notification Appliances): กระดิ่ง, ไซเรน, ไฟสัญญาณ (Strobe Light), ลำโพงกระจายเสียงหนีไฟ
อุปกรณ์เชื่อมต่อ (Interface Devices): เชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ เช่น ระบบควบคุมประตู, ลิฟต์, ระบบปรับอากาศ


ระบบหัวกระจายน้ำดับเพลิงอัตโนมัติ (Automatic Sprinkler System):

หน้าที่: ดับเพลิงอัตโนมัติเมื่อหัวสปริงเกลอร์ถูกความร้อนถึงอุณหภูมิที่กำหนด โดยพ่นน้ำออกมาในบริเวณที่เกิดเหตุ
อุปกรณ์หลัก:
หัวสปริงเกลอร์ (Sprinkler Heads): มีหลายชนิด เช่น Upright, Pendent, Sidewall, Concealed ขึ้นอยู่กับลักษณะการติดตั้งและประเภทของพื้นที่
ท่อส่งน้ำดับเพลิง: ท่อเหล็กหรือท่อชนิดอื่นที่ได้รับมาตรฐาน
วาล์วควบคุมและวาล์วสัญญาณ (Control Valves & Alarm Valves): ควบคุมการไหลของน้ำและส่งสัญญาณเมื่อน้ำไหล
ถังเก็บน้ำสำรอง: ต้องมีปริมาณเพียงพอสำหรับระบบ
ปั๊มน้ำดับเพลิง (Fire Pump): รักษาแรงดันน้ำในระบบ และจ่ายน้ำเมื่อระบบสปริงเกลอร์ทำงาน
ระบบควบคุมปั๊ม (Fire Pump Controller): ควบคุมการทำงานของปั๊ม


ระบบท่อยืนและหัวจ่ายน้ำดับเพลิง (Standpipe and Hose System):

หน้าที่: เป็นแหล่งจ่ายน้ำสำหรับนักดับเพลิง หรือผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมใช้สายฉีดน้ำดับเพลิง
อุปกรณ์หลัก:
ตู้เก็บสายฉีดน้ำดับเพลิง (Fire Hose Cabinet): ภายในประกอบด้วย
สายฉีดน้ำดับเพลิง (Fire Hose): มีหลายขนาด เช่น 1.5 นิ้ว หรือ 2.5 นิ้ว
หัวฉีดน้ำดับเพลิง (Nozzle):
วาล์วเปิด-ปิดน้ำ (Hose Valve)
ข้อต่อทางเข้าสำหรับรถดับเพลิง (Fire Department Connection - FDC / Siamese Connection): จุดที่รถดับเพลิงสามารถต่อเข้ากับระบบเพื่อส่งน้ำเข้าอาคารได้


เครื่องดับเพลิงแบบมือถือ (Portable Fire Extinguishers):

หน้าที่: ดับไฟขนาดเล็กที่เพิ่งเริ่มไหม้ ก่อนที่ไฟจะลุกลาม
ประเภท: ผงเคมีแห้ง, คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2), น้ำ, โฟม, สารสะอาด (Clean Agent)
การติดตั้ง: ติดตั้งในตำแหน่งที่มองเห็นชัดเจน หยิบใช้สะดวก และมีป้ายบอก
ระบบดับเพลิงอัตโนมัติชนิดพิเศษ (Special Hazard Fire Suppression Systems):

หน้าที่: สำหรับพื้นที่พิเศษที่ใช้น้ำดับเพลิงไม่ได้ หรืออาจก่อให้เกิดความเสียหาย เช่น ห้องเซิร์ฟเวอร์, ห้องควบคุมไฟฟ้า, ห้องเก็บสารเคมี
ประเภท:
ระบบดับเพลิงด้วยก๊าซเฉื่อย (Inert Gas Systems): เช่น N2, Argon
ระบบดับเพลิงด้วยสารสะอาด (Clean Agent Systems): เช่น FM-200, Novec 1230
ระบบดับเพลิงด้วยโฟม (Foam Systems): สำหรับพื้นที่เก็บเชื้อเพลิงหรือของเหลวไวไฟ
ระบบดับเพลิงด้วยละอองน้ำแรงดันสูง (Water Mist Systems):


ขั้นตอนและข้อควรพิจารณาในการติดตั้ง

การออกแบบ (Design):

ประเมินความเสี่ยง: วิเคราะห์ประเภทของอาคาร, การใช้งาน, จำนวนคน, วัสดุก่อสร้าง, และประเภทของวัตถุไวไฟที่อาจมี
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: วิศวกรไฟฟ้า, วิศวกรเครื่องกล, และวิศวกรความปลอดภัย ที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบดับเพลิง
อ้างอิงมาตรฐาน: ออกแบบตามมาตรฐานสากล เช่น NFPA (National Fire Protection Association) และมาตรฐานท้องถิ่น/กฎหมายควบคุมอาคารของไทย
วางแผนผัง: กำหนดตำแหน่งกล้องตรวจจับ, หัวสปริงเกลอร์, สถานีแจ้งเหตุด้วยมือ, ตู้ดับเพลิง, ถังดับเพลิง, เส้นทางเดินท่อ, และตำแหน่งปั๊มน้ำ


การขออนุญาต (Permit Application):

ยื่นแบบแปลนและเอกสารที่เกี่ยวข้องต่อหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบ เช่น สำนักงานเขต, กรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อขออนุญาตก่อสร้างหรือปรับปรุง


การจัดซื้ออุปกรณ์ (Procurement):

เลือกซื้ออุปกรณ์ที่ได้รับมาตรฐานและมีคุณภาพสูงจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ


การติดตั้ง (Installation):

ดำเนินการโดยช่างผู้ชำนาญการและมีความรู้เฉพาะทาง
ปฏิบัติตามแบบแปลนและมาตรฐานที่กำหนดอย่างเคร่งครัด
การเดินท่อต้องถูกต้องตามหลักวิศวกรรม มีการยึดจับที่แข็งแรง และป้องกันสนิม
การติดตั้งสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าต้องเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยทางไฟฟ้า


การทดสอบระบบ (Testing & Commissioning):

ทดสอบแรงดันน้ำ (Hydrostatic Test): ตรวจสอบรอยรั่วในระบบท่อ
ทดสอบการทำงานของปั๊มดับเพลิง (Fire Pump Performance Test): ตรวจสอบแรงดันและอัตราการไหล
ทดสอบการทำงานของอุปกรณ์ตรวจจับและแจ้งเตือน: ตรวจสอบว่าทุกอุปกรณ์ทำงานสัมพันธ์กันและส่งสัญญาณได้ถูกต้อง
ทดสอบการเชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ: เช่น ระบบลิฟต์ ระบบประตูหนีไฟ
ทดสอบการดับเพลิง (Discharge Test): ในระบบพิเศษบางชนิด (ต้องทำอย่างระมัดระวัง)


การบำรุงรักษา (Maintenance):

จัดทำแผนการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance - PM) อย่างสม่ำเสมอ รายวัน, รายสัปดาห์, รายเดือน, รายปี โดยผู้เชี่ยวชาญ
มีการตรวจสอบและทดสอบระบบตามความถี่ที่กำหนด (ดังที่กล่าวในหัวข้อการตรวจเช็คระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้)
จัดทำบันทึกการบำรุงรักษาและการทดสอบอย่างละเอียด

กฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย (ตัวอย่าง)
พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และกฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติ (เช่น กฎกระทรวงกำหนดประเภทอาคารที่ต้องมีระบบการป้องกันอัคคีภัย)
มาตรฐานการป้องกันอัคคีภัยสำหรับอาคาร (NFPA 13, 72, 25 ฯลฯ) ที่นำมาปรับใช้ในประเทศไทย

การติดตั้งระบบดับเพลิงที่ได้มาตรฐานไม่ใช่แค่การทำตามกฎหมาย แต่คือการลงทุนที่สำคัญที่สุดเพื่อความปลอดภัยของทุกคนที่อยู่ในอาคาร และเพื่อความยั่งยืนของการดำเนินงาน.