เที่ยววัด แก้ดวงตก ล้างอาถรรพ์ หนุนดวงเสริมบารมี ชีวิตติดขัดไปไหว้แล้วดีขึ้นการไหว้พระทำบุญเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยม เมื่อมีเวลาว่างหลายคนมักเดินทางไปไหว้พระตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อขอพร ขอโชคลาภ และเสริมสิริมงคล แต่สำหรับคนที่รู้สึกว่าช่วงนี้ทำอะไรก็ไม่เป็นดังใจหวัง มีเหตุให้ติดขัดกับเรื่องต่าง ๆ เสมอ วันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ไหว้พระ แก้ดวงตก ล้างอาถรรพ์ ปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากชีวิต พร้อมหนุนบารมีให้ชีวิตมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง (เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ) ซึ่งบางแห่งหลายคนอาจคุ้นเคยกันบ้างแล้ว เพราะก็มีชื่อเสียงพอสมควร แต่จะมีวัดไหนบ้างนั้น ตามเราไปปักหมุดกันได้เลย
สำหรับผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงที่มีเรื่องให้ว้าวุ่นใจ และไม่รู้จะหันหน้าไปทางใด นอกจากการเข้าวัดไหว้พระทำบุญแล้ว การดูดวงชะตานับเป็นหนึ่งในเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการดูลายมือ ดูดวงชะตาราศี ทำนายด้วยไพ่ยิปซี หรืออาศัยศาสตร์ดูดวงชะตาด้วยไพ่เทวะมันตรา พยากรณ์ ซึ่งเป็นศาสตร์โบราณที่อาศัยไพ่เทพ 78 ใบที่มีพลังและได้รับการนับถือจากผู้คนทั่วโลก โดยไพ่แต่ละใบในสำรับจะมีเทพ 1 องค์ประทับ และเจ้าแม่กวนอิมก็ถือเป็นหนึ่งเทพศักดิ์สิทธิ์ของไพ่ในสำรับนี้ด้วยเช่นกัน
สถานที่ไหว้พระ กรุงเทพฯ
1. วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร
วัดโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ที่ถนนอรุณอมรินทร์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี เดิมชื่อว่า "วัดมะกอก" แต่เมื่อครั้งสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีพระราชประสงค์ย้ายราชธานีมาตั้ง ณ กรุงธนบุรี โดยกรีธาทัพมาทางชลมารค และมาถึงหน้าวัดมะกอกเอารุ่งสาง จึงเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดแจ้ง" ต่อมาพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงย้ายราชธานีจากกรุงศรีอยุธยามาตั้ง ณ กรุงธนบุรี ได้โปรดเกล้าฯ กำหนดให้เป็นวัดในเขตพระราชฐาน และสถาปนาเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร โดยได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 2 จึงถือเป็นวัดประจำรัชกาล เมื่อบูรณะแล้วเสร็จได้พระราชทานนามว่า วัดอรุณราชธาราม ในสมัยรัชกาลที่ 3 มีการก่อสร้างพระปรางค์องค์ใหญ่ ความสูง 82 เมตร กว้าง 234 เมตร เสร็จสมบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 4 และได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดอรุณราชวราราม เช่นปัจจุบัน
คนนิยมไป ลอดพระแท่นพระเจ้ากรุงธนบุรี ที่ตั้งอยู่ภายในโบสถ์น้อย สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภายในมีพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพระแท่นไม้สักทอง สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2310 เพราะเชื่อกันว่าหากได้ลอดพระแท่นนี้จะล้างอาถรรพ์ ปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป หนุนดวงและเสริมบารมี ทำให้พบกับโชคดี
เริ่มต้นด้วยการไหว้หลวงพ่อรุ่งมงคล เดินไปกราบที่หน้าพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก่อนจะไปยังบริเวณพระแท่น นำหน้าผากแตะที่พระแท่น ตั้งจิตอธิษฐานถึงเรื่องที่ต้องการ เอ่ยชื่อ-นามสกุล แล้วค่อย ๆ ทำการลอดใต้ฐานพระแท่นจนสุด เวียนขวาออกประตูแล้วกลับมาลอดใหม่จนครบ 3 รอบ จากนั้นไปยังพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชอีกรอบ มองตาองค์ท่าน บอกกล่าวถึงสิ่งที่ต้องการอีกครั้ง ไปกราบพระอาจารย์ที่คอยทำพิธีให้ รับด้ายมงคลและน้ำพระพุทธมนต์เสริมสิริมงคลเป็นอันเสร็จสิ้น
คำกล่าวถวายสักการะ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
โอม สิโน ราชาเทวะ ชะยะตุ ภะวัง สัพพะศัตรู วินาสสันติ
คำถวายเครื่องสักการะ (นะโม 3 จบ) โอมสิโน ราชาเทวะ นะมามิหัง
Google Map : วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
เฟซบุ๊ก : Wat Arun Ratchawararam Bangkok I วัดอรุณราชวราราม กรุงเทพมหานคร
2. วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร
วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า วัดสุทัศน์ หน้าวัดหันออกมาทางถนนอุณากรรณ โดยทางฝั่งด้านถนนบำรุงเมืองจะตรงข้ามกับ เสาชิงช้า เทวสถานสัญลักษณ์สำคัญของกรุงเทพมหานคร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร 1 ใน 6 วัดที่เป็นพระอารามหลวงชั้นสูงสุดของไทย ทั้งยังเป็นวัดประจำรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี
คนนิยมไปไหว้ พระพุทธเสรฏฐมุนี หรือ หลวงพ่อกลักฝิ่น ที่ประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ ณ ศาลาการเปรียญ ด้านหน้าพระอุโบสถ เพื่อขอขมากรรม ถอนคำอธิษฐาน คำสัญญา และคำสาบาน โดยในยุคปราบฝิ่นปี พ.ศ. 2382 รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้นำกลักฝิ่นที่ทำจากทองแดง ทองเหลือง มาหล่อหลอมปิดทองเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตักกว้าง 1 วา 1 ศอก 1 คืบ ต่อมารัชกาลที่ 4 พระราชทานนามว่า พระพุทธเสฏฐมุนี แปลว่า พระผู้ประเสริฐสุด หรืออีกความหมายว่า ผู้ติดสิ่งเสพติดทั้งหลาย สามารถกลับใจเป็นคนดีได้เสมอ ย่อมสว่างรุ่งเรืองเหมือนพระพุทธรูปที่ทรงสร้าง อันจะเป็นพลังแข็งแกร่งชนะจิตใจให้เหินห่างสิ่งเสพติดได้ ถือเป็นพระกลักฝิ่นที่มีเพียงองค์เดียวในโลก
ของไหว้หลวงพ่อกลักฝิ่น (ทางวัดมีให้บริการ)
ธูป 5 ดอก
เทียนขาว (เล่มเล็ม) จำนวน 5 เล่ม
ดอกบัว 5 ดอก
เงิน 5 บาท
หลังจากจุดธูปเทียนบริเวณที่ทางวัดจัดให้เรียบร้อยแล้ว ให้นำบทสวด 4 แผ่น เข้าไปนั่งท่องด้านใน (ตั้งจิตให้มั่น สวดให้ครบทุกแผ่น) จากนั้นนำดอกบัวไปวางไว้ที่หน้าองค์พระ และนำเงิน 5 บาทไปหยอดตู้ เป็นอันแล้วเสร็จ
หมายเหตุ : บทสวดขอขอขมากรรม ทางวัดมีให้ทั้งหมด 4 แผ่น สวดให้ครบทุกหน้า
Google Map : วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.30-18.00 น.
เฟซบุ๊ก : วัดสุทัศนเทพวราราม Wat Suthat
3. วัดอินทรวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร
วัดเก่าแก่และมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน ตั้งอยู่บนถนนวิสุทธิกษัตริย์ ใกล้สี่แยกบางขุนพรหม ตรงข้ามธนาคารแห่งประเทศไทย ใกล้สะพานพระราม 8 ฝั่งพระนคร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2295 เดิมชื่อ วัดไร่พริก เพราะอยู่บริเวณสวนผักของชาวจีน ในสมัยรัชกาลที่ 1 ทรงยกทัพไปปราบกบฏที่กรุงเวียงจันทน์ และนำราชวงศ์ลาวมาอยู่ ณ ตำบลบางขุนพรหม จึงได้ชื่อใหม่ว่า บ้านลาว เจ้าอินทวงศ์ ซึ่งได้มากับคณะด้วย มีความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา จึงบูรณะวัดไร่พริกและเรียกชื่อว่า วัดอินทาราม ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้เปลี่ยนเป็น วัดอินทรวิหาร ดังเช่นปัจจุบัน
วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ประดิษฐาน พระศรีอริยเมตไตรย หรือที่เรียกกันว่า หลวงพ่อโต พระพุทธรูปปางอุ้มบาตรยืนองค์ใหญ่ตั้งอยู่กลางแจ้ง สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมื่อปี พ.ศ. 2410 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2467 มีความสูง 16 วา กว้าง 5 วา 2 ศอก ประดับด้วยกระเบื้องโมเสกทองคำ 24 เค ทั้งองค์ บริเวณยอดเกตุมาลาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากศรีลังกาไว้ด้วย
พระคาถาหัวใจพระศรีอริยเมตไตรย
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
นะโม พุทธายะ นะโม โภตะยะ มะโร กะหิโต นะโม เมตตรัยโย
มะวิปะโร ปัญจะ พุทธา ทานะ คะตา สะวัตติ ลาโภ ภะวันตุเมฯ
อธิษฐานตามความปรารถนาของตน บุญนั้นย่อมสำเร็จแก่ท่านเทอญ
นอกจากไปสักการะหลวงพ่อโตแล้ว คนยังนิยมนำน้ำมนต์ใน บ่อน้ำพระพุทธมนต์ ที่สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ โดยรวบรวมน้ำมนต์จากที่อื่น ๆ มา 381 แห่ง แผ่นยันต์ 121 พระคาถา ที่ทางวัดเคยขุดพบใต้บ่อ อัญเชิญกลับบ้านหรือประพรมตัวเพื่อความเป็นสิริมงคล (ห้ามเอามือรองน้ำ) เพราะเชื่อกันว่าหากใครที่โดนของ ดวงตก สามารถแก้หรือเสริมดวงได้
คาถาบูชาโต พรหมรังสี
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
พรหมรังษี เมตตาบารมี
จุติจุตัง อะระหัง
จุตติ นะโมพุทธายะ
นะมะพะทะ จะภะกะสะ
มะอะอุ มะอะอุ
มะอะอุ ภะคะวา
Google Map : วัดอินทรวิหาร พระอารามหลวง
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. (บ่อน้ำพระพุทธมนต์ เปิดเวลา 06.30-17.30 น.)
เฟซบุ๊ก : วัดอินทรวิหาร พระอารามหลวง Big Standing Buddha
4. วัดนาคปรก กรุงเทพมหานคร
วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนถนนเทอดไท เขตภาษีเจริญ ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า BTS สถานีวุฒากาศ สันนิษฐานว่าสร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย หรือก่อนการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 และด้วยภาวะทางสงคราม ชาวบ้านหลบลี้หนีภัยเป็นเหตุให้วัดถูกทิ้งร้าง ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 "เจ้าสัวพุก" หรือ พระบริบูรณ์ธนากร พ่อค้าคหบดีเชื้อสายจีน (พระยาโชฎึกราชเศรษฐี (พุก แซ่ตัน) ต้นสกุล โชติกะพุกกณะ) ได้เข้ามาบูรณปฏิสังขรณ์ และได้เริ่มบูรณะอุโบสถก่อน โดยอุโบสถจะมีลักษณะโค้งแอ่นคล้ายท้องเรือสำเภาจีน ภายในมีภาพวาดจิตรกรรมจีนจัดเรียงเป็นช่อง ๆ แสดงถึงเครื่องมงคลสำหรับบูชาทางพระพุทธศาสนานิกายมหายาน ตามความเชื่อของชาวจีนแต่โบราณ นอกจากนี้ยังได้อัญเชิญพระพุทธรูปสัมฤทธิ์สมัยสุโขทัย ปางมารวิชัย ซึ่งมีพระพุทธลักษณะที่งดงาม อายุเก่าแก่กว่า 700 ปี (นับจากปัจจุบัน) จำนวน 2 องค์ นำมาประดิษฐานเป็นพระประธานในอุโบสถ นามว่า หลวงพ่อเจ้าสัว ส่วนอีกองค์หนึ่งประดิษฐานไว้เป็นพระประธานในวิหาร มีลักษณะของพญานาคหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาสตร์เทวะมันตราพยากรณ์แผ่ปกคลุมเหนือพระเศียรเรียกขานนามกันว่า หลวงพ่อนาคปรก
นอกจากไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แล้ว คนยังนิยมไป ลอดโบสถ์โบราณศรีอยุธยา เพื่อล้างอาถรรพ์ ปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากชีวิต รวมถึงเสริมความเป็นสิริมงคล บารมี แคล้วคลาดจากโรคภัยไข้เจ็บ พบเจอแต่ความโชคดีในด้านต่าง ๆ โดยเชื่อกันว่าเมื่อผ่านเข้าสู่ประตูอุโบสถหลวงพ่อเจ้าสัว จะมีอายุยืนยาว มีความร่ำรวย การงานเจริญรุ่งเรือง มีสุขภาพแข็งแรง อยู่ดีมีสุข มีเพื่อนดี ครอบครัวอบอุ่น อยู่ในศีลธรรม เมื่อถึงคราวตายจากไปอย่างมีความสุข สู่ภพภูมิสวรรค์ โดยจะเดินวน 3 รอบตามเข็มนาฬิกา (ตามทางที่วัดจัดเตรียมไว้) ซึ่งด้านในของฐานโบสถ์จะมีลูกนิมิตโบราณ รอยพระพุทธบาทจำลอง บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และพระพุทธรูป ให้สักการะขอพร
คาถาลอดโบสถ์
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมังนะมัสสามิ
สุปะฏิปปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ, วิชชาจะระณะสัมปันโน
สุคะโต โลกะวิทู, อนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ, สัตถา เทวะ
มะนุสสานัง, พุทโธ ภะคะวาติ
ตั้งจิตอธิษฐานว่า ข้าพเจ้า...ชื่อ-นามสกุล...ขอน้อมสักการะองค์พระรัตนตรัยทั้งสาม พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาสถานที่แห่งนี้ ข้าพเจ้า...ชื่อ-นามสกุล...ขอลอดโบสถ์อันศักดิ์สิทธิ์นี้ เพื่อให้บารมีแห่งพุทธคุณทุกประการ ชำระล้างทุกข์โทษนานาประการที่ติดเนื้อหนังมังสาข้าพเจ้ามาแต่อดีตชาติ และปัจจุบันที่มีให้พลันสวาหายจบสิ้นไป
1. ข้าพเจ้า...ชื่อ-นามสกุล...ขอลอดโบสถ์อันศักดิ์สิทธิ์นี้ เพื่อให้บารมีแห่งพุทธคุณทุกประการ ชำระล้างทุกข์โทษนานาประการที่ติดเนื้อหนังมังสาข้าพเจ้ามาแต่อดีตชาติ และปัจจุบันชาติ ให้กรรมปัจจุบันที่มี ขอให้พลันสวาหาย
2. หากข้าพเจ้าต้องธรณีสาร อุบาทว์ทั้ง 8 ประการ ตามโบราณว่าไว้ แต่ใดมา ขอให้หลุดสวาหายไป
3. หากข้าพเจ้าต้องมนตราน้ำมันผี ติดมนต์พราย ได้ติดเนื้อหนังมังสา แต่ใดมา ขอให้หลุดสวาหาย
4. หากข้าพเจ้านั้นต้องเดรัจฉาน เสน่ห์ยาแฝด หากติดเนื้อหนังมังสา แต่ใดมา ขอให้หลุดสวาหาย
5. หากข้าพเจ้าต้องคุณ 12 ภาษา ติดเนื้อหนังมังสา แต่ใดมา ขอให้หลุดสวาหาย
6. หากข้าพเจ้าต้องมนต์ดำ มนต์แดง ติดเนื้อหนังมังสา แต่ใดมา ขอให้หลุดสวาหาย
7. หากข้าพเจ้าต้องโรคพยาธิ เกิดโรคร้ายไม่หาย ติดโรคภัยไข้เจ็บรักษามิได้ ขอให้หลุดสวาหาย
8. หากข้าพเจ้าต้องโรคกรรม โรคเวร ปัจจุบันโรคกรรม พลันสวาหาย ขอโสธายะ และ
9. ข้าพเจ้าปิดทองลอดโบสถ์ครั้งนี้ จงหนุนวาสนา หนุนบารมี ให้มั่งมีศรีสุข สิ่งที่ปรารถนาจงสำเร็จด้วยเทอญ
อธิษฐานตามปรารถนา
นอกจากนี้ยังมักไปสักการะ หลวงพ่อโต และ หลวงพ่อใหญ่ ที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารหลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปสองพี่น้องที่สร้างในยุครัตนโกสินทร์ โดยหลวงปู่ชู คงชูนาม เจ้าอาวาสในยุคสมัยนั้น เพื่อขอโชคลาภ การงาน และสวดถอนสิ่งไม่ดี วิธีการขอพรคือกระซิบที่ข้างหูหลวงพ่อโต โดยผู้หญิงให้กระซิบด้านซ้าย ส่วนผู้ชายให้กระซิบด้านขวา
คาถาสวดถอนสิ่งอัปมงคลออกจากตน
สุณาตุ เม ภันเต สังโฆ โย โส สังเฆนะ
สะมุหะไนยยะ สะมุหะคะติ สะมุหะคตา เอสา
เวทมนตร์ดำไสยศาสตร์ทั้งหลาย
สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย
สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร สิ่งอัปมงคลทั้งหลาย
ที่อยู่ในกายข้าพเจ้า (ชื่อ/นามสกุล/อายุ)
ที่อยู่ในบ้านข้าพเจ้า ที่อยู่ในบริษัทที่ทำงานข้าพเจ้า
นะถอน โมถอน พุทคลอน ธาเคลื่อน ยะหลุด
ลอยเลื่อนเคลื่อนไปด้วย นะโมพุทธายะ
พุทธัง ปัจจักขามิ
ธัมมัง ปัจจักขามิ
สังฆัง ปัจจักขามิ
เอกาเสติ ปะสิทธิ เม เอหิ
คุจฉะมุมหิ เปหิ เปหิ นะมะพะทะ.
เมื่อสวดเสร็จแล้วให้กรวดน้ำลงแผ่นดิน โดยใช้เหรียญ 10 บาทรองรับน้ำ แล้วนำเหรียญนั้นไปใส่ตู้บริจาคชำระหนี้สงฆ์ อุทิศบุญให้บรรพชน เทวดาที่รักษาตัวเรา และภูตผีสรรพวิญญาณทั้งหลาย ขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร เพื่อตัดสิ้นเสียซึ่งเวรกรรมที่มีต่อกัน
Google Map : วัดนาคปรก
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก Wat Nakprok Bangkok l วัดนาคปรก ภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
5. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร
พระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ริมคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ห่างจากสะพานผ่านฟ้าลีลาศ 300 เมตร สถานที่ประดิษฐานพุทธสถานสูงสง่าอยู่ใจกลางเมืองอย่าง พระบรมบรรพต หรือที่เรียกกันว่า ภูเขาทอง ซึ่งมีความสูงจากฐานจนถึงยอดพระเจดีย์ 77 เมตร ทั้งยังเป็นสถานที่ที่ถูกกำหนดให้เป็น "สะดือประเทศ" (จุดที่ถูกกำหนดให้เป็นจุดศูนย์กลางของเมือง) หมุดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขอพรทำธุรกิจที่ดิน โดยเชื่อว่าหากต้องการขายที่ดิน ทำธุรกิจเกี่ยวกับที่ดิน ต้องมาขอพรที่นี่
นอกจากนี้คนที่ดวงตกแนะนำให้ไปไหว้ พระพุทธมงคลบรมบรรพต หรือที่เรียกกันว่า หลวงพ่อดวงดี ประดิษฐานอยู่ภายในศาลาสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศฯ ทางด้านประตูสะพานร้องไห้ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ (ปางตรัสรู้) ศิลปะสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ หล่อขึ้นจากแผ่นดวงมหาโภคทรัพย์ที่บรรจุอยู่บนยอดพระบรมบรรพต พระเกตุหล่อด้วยทองคำ และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เชื่อว่าหากได้กราบไหว้จะประสบแต่ความโชคดี หนุนดวงชะตาให้ดี จะขจัดเคราะห์และเกิดสิริมงคล ตลอดถึงนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ตนเองและครอบครัว
Google Map : วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
เฟซบุ๊ก : วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
6. วัดโบสถ์ (หลวงปู่เทียน) จังหวัดปทุมธานี
วัดโบราณที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองปทุมธานี ห่างจากมหาวิทยาลัยปทุมธานีไม่เกิน 2 กิโลเมตร เดิมชื่อ วัดสร้อยนางหงษ์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2164 ไม่ปรากฏว่าเป็นผู้ใดสร้าง แต่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นชาวรามัญที่อพยพมาจากหงสาวดี เพราะมีเสาหงส์ สัญลักษณ์แห่งเมืองหงสาวดี (ปัจจุบันนี้เสาหงส์ได้ชำรุดหมดแล้ว) ภายในวัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้สักการะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รูปหล่อพระครูบวรธรรมกิจ (เทียน ปุปฺผธมฺโม) หรือ หลวงปู่เทียน พระเถราจารย์เชื้อสายรามัญผู้มีชื่อเสียง, พระพุทธมหาจักรพรรดิ 400 ปี หรือที่เรียกกันว่า หลวงพ่อสมปรารถนา, พระรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขนาด 3.5 เมตร และองค์ท้าวเวสสุวรรณ เป็นต้น
นอกจากนี้คนยังนิยมไปทำบุญดีดฐานโบสถ์หรือยกโบสถ์ เพื่อล้างอาถรรพ์ ทำให้ชะตาชีวิตดีขึ้น และเสริมสิริมงคล โดยหลังจากไหว้พระเรียบร้อยแล้ว ทางวัดจะมีผ้าแดงให้เขียนชื่อ-นามสกุล จากนั้นให้ลอดใต้โบสถ์เพื่อนำผ้าแดงไปผูกทางด้านในหรือจะผูกรอบ ๆ โบสถ์ก็ได้
คาถาบูชา พระครูบวรธรรมกิจ (เทียน ปุปฺผธมฺโม) หลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ จังหวัดปทุมธานี
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
อะหัง สุขิโต หลวงปู่เทียน ปุปผะรัมโม
นามะเต อาจาริโย เม ภันเต โหหิ (ว่า 3 จบ)
แล้วอธิษฐานตามใจปรารถนา
บทสวดบูชาพระพุทธจักรพรรดิ (หลวงพ่อสมปรารถนา วิหาร 400 ปี วัดโบสถ์)
พุทธะบูชา ธรรมะบูชา สังฆะบูชา พระพุทธะ มหาจักกะวัตติปูชา โลกะพรหมะเทวะตา ทิพพะมันตา
ปัญญาจักขุ มหาเตชามหายะสา มหาโภคา มหาปัญญา สัพเพ เทวา ปิยักขา
จะ สัพเพ มนุสสา ปิยักขา จะ สัพเพ สะมะณา ปิยักขา ทะสะทิสา ปะโชตะ เนราชะ มุกเข มะธุระ สัททัง โกรธัง
มะมะ ปะมุญจันติ สัพพะสุขะ สะวัสติ มหาลาภา พุทธะมหาจักกะวัตติราชาประสิทธิ ภะวันตุ เม
แบบย่อ : พระพุทธะ มหาจักกะวัตติ ปูชา ธัมมะปูชา สังฆะปูชา มหาประสิทธิ อธิษฐามิ สัพพะ สิทธิ ภะวันตุ เม
Google Map : วัดโบสถ์ (หลวงปู่เทียน)
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.30-17.00 น.
เฟซบุ๊ก : วัดโบสถ์ หลวงปู่เทียน
7. วัดหน้าพระเมรุราชิการามวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่นอกเกาะเมือง อำเภอพระนครศรีอยุธยา ไม่ไกลจากวัดวัดเชิงท่าและพระราชวังโบราณ มักเรียกสั้น ๆ ว่า วัดหน้าพระเมรุ สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น จากอดีตถึงปัจจุบันยังคงปรากฏสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาในสภาพสมบูรณ์ โดยเฉพาะพระอุโบสถ ที่มีหน้าบันเป็นไม้สักแกะสลักรูปพระนารายณ์ทรงครุฑเหยียบเศียรนาค ภายในประดิษฐาน พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญบรมไตรโลกนาถ เรียกโดยย่อว่า พระพุทธนิมิต พระพุทธรูปปางมารวิชัยหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ทรงเครื่องแบบกษัตราธิราช เชื่อกันว่าเป็นพระผู้มีชัยชนะเหนือหมู่มารทั้ง 3 โลก ช่วยขจัดปัดเป่าอุปสรรคให้เบาบางลง
คาถาบูชาพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญบรมไตรโลกนาถ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
พุทธนิมิตตัง อหังวันทา ขมามิหัง
พุทธนิมิตตัง สหัสสะโกติเทวตานัง
พุทธนิมิตตัง สาธุ รูปานัง
อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ
ปฐวีคงคา พระภูมะเทวา ขมามิหัง
ผู้ที่ไปไหว้พระ ณ วัดหน้าพระเมรุ นอกจากจะไปขอพรพระพุทธนิมิตแล้ว ก่อนเข้าไปในพระอุโบสถ ระหว่างเดินลอดซุ้มประตูหน้าบันเพื่อเข้าไปด้านใน ให้อธิษฐานแต่สิ่งดี ๆ นึกถึงสิ่งดี ๆ เมื่อไหว้พระเสร็จแล้วระหว่างที่เดินออก ตอนลอดซุ้มประตูก็ให้ทำเช่นเดิม เชื่อกันว่าจะพบเจอแต่สิ่งดี ๆ ปัดเป่าสิ่งไม่ดี อุปสรรคต่าง ๆ ออกจากชีวิต และอย่าลืมไปไหว้ขอพรพระพุทธคันธารราฐมหาประสิทธิ์ พระพุทธรูปสมัยทวารวดี อายุประมาณ 1,500 ปี ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารสรรเพชญ์ ให้สำเร็จสมดังปรารถนาดังที่ตั้งใจไว้ด้วยนะ
คาถาบูชาพระนารายณ์ทรงครุฑ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
อิติ อะระหัง ทิพ พะ จักขุง วิโส ธายิ
Google Map : วัดหน้าพระเมรุราชิการามวรวิหาร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 08.00-17.00 น.
เฟซบุ๊ก : วัดหน้าพระเมรุราชิการาม พระอารามหลวง
8. วัดบางกุ้ง จังหวัดสมุทรสงคราม
วัดโบราณที่ตั้งอยู่ในเขตตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที ติดกับค่ายบางกุ้งและแม่น้ำแม่กลอง ห่างจากตลาดสดแม่กลองประมาณ 10 กิโลเมตร สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย พ.ศ. 2250-2300 มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะในสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์โปรดเกล้าฯ ให้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่ายบริเวณนี้ โดยมีวัดบางกุ้งอยู่กลางค่าย เรียกว่า ค่ายบางกุ้ง และสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้งให้อยู่กลางค่าย เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของทหาร ก่อนจะร้างไปภายหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ต่อมาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี โปรดเกล้าฯ ให้ชาวจีนจากระยอง ชลบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี รวบรวมผู้คนมาตั้งกองทหารรักษาค่าย จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ค่ายจีนบางกุ้ง ในปี พ.ศ. 2311 พระเจ้ากรุงอังวะยกทัพผ่านกาญจนบุรีมาล้อมค่ายจีนบางกุ้ง สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้พระมหามนตรี (บุญมา) เป็นแม่ทัพยกไปช่วยเหลือทหารจีนขับไล่กองทัพพม่า
ที่นี่เป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์อันเกิดจากโบสถ์เก่าแก่ที่ถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ ทั้งต้นโพธิ์ ต้นไกร ต้นไทร และต้นกร่าง คลุมทั้งหลัง ซึ่งน่าอัศจรรย์ตรงที่รากไม้เหล่านี้เป็นตัวช่วยยึดให้โบสถ์ยังคงรูปได้อย่างน่าทึ่ง นอกจากนี้ตรงหน้าบันยังมีลวดลายพรรณพฤกษา ประดับด้วยเครื่องถ้วย ภายในประดิษฐาน หลวงพ่อนิลมณี เป็นพระประธาน อีกทั้งยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ เชื่อกันว่าหากได้เข้าไปไหว้พระโบสถ์ปรกโพธิ์แห่งนี้ จะช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดี ทำให้ชีวิตจากร้ายกลายเป็นดีขึ้น อุปสรรคต่าง ๆ มลายสิ้นไป พร้อมกับขอพรเสริมดวง ขอโชคลาภ การงาน การเงิน หากสมความปรารถนามักนำข้าวต้มมัดมาแก้บน
คาถาบูชาหลวงพ่อนิลมณี
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
อะหัง พุทธนิลมณี สิระสา นะมามิ
ชะยะ ตุภะวัง สัพพะศัตรู วินาศสันติ
Google Map : วัดบางกุ้ง
เวลาเปิด-ปิด : 24 ชั่วโมง
9. วัดลำบัวลอย จังหวัดนครนายก
ตั้งอยู่ในตำบลท่าเรือ อำเภอปากพลี เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ในอดีตวัดนี้เคยถูกวาตภัยจนเสียหาย เหลือเพียงกุฏิหลังเดียว หลวงพ่อสนิท เจ้าอาวาสในขณะนั้น ได้ทำการปรับปรุงให้คืนสู่สภาวะเดิม อีกทั้งหลวงพ่อยังเป็นนักพัฒนา ท่านได้นำเงินส่วนตัวซื้อที่ดินชาวนาเพื่อทำทางตัดเข้าสู่วัด และช่วงหลัง ๆ มานี้หลายคนอาจจะรู้จักวัดลำบัวลอยมากขึ้นจากวัตถุมงคล เช่น นกสาริกา จระเข้ และพญาเรือนเต่า เป็นต้น ซึ่งเป็นวัตถุมงคลที่หลวงพ่อสนิทสร้างขึ้นมาเพื่อให้ญาติโยมนำไปบูชา และต่างเล่าขานถึงในเรื่องความมหัศจรรย์ โดยเฉพาะพญาเรือนเต่า ซึ่งท่านแกะสลักด้วยหินเป็นกริ่งห้อยคอและบูชาในบ้าน
อีกทั้งคนที่กำลังติดขัดเรื่องเงินหรือธุรกิจสะดุด นิยมไปอาบน้ำหรือขัดล้างหุ่น จระเข้โทน ที่หลวงพ่อสนิทเป็นผู้ปลุกเสกไว้ อธิษฐานไปล้างไปตามแต่ความศรัทธา เชื่อว่าจระเข้โทนจะบันดาลโชคลาภ เรื่องการปลดหนี้สิน และอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ
คาถาปลุกจระเข้โทน
ตั้งนะโม 3 จบ
โอมปลุกพญากุมภา ลุกแล้วอย่าไปที่อื่น
ตื่นแล้วจงมารักษา เข้าคุ้มครองกายา ทั่วสารพางค์กาย
พุทธังสะระณังเมสิทธิ ธัมมังสะระณังเมสิทธิ สังฆังสะระณังเมสิทธิ
พุทธังเอหิมาเรโส ธัมมังเอหิมาเรโส สังฆังเอหิมาเรโส
พุทธังกุมภีโรโจรัง คงคังปิติอิ ธัมมัง ภุมภีโรโจรัง คงคังปิติอิ สังฆังกุมภีโรโจรัง คงคังปิติอิ
ปลุกคาถา 3 คาบ 7 คาบ 108 คาบ
คาถาย่อ (หัวใจพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ)
อิสะวาสุ (3 คาบ 7 คาบ 108 คาบ)
Google Map : วัดลำบัวลอย
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.