จัดฟันบางนา: เมื่อไหร่ควรขูดหินปูน? คำตอบที่คุณควรรู้การขูดหินปูนเป็นการรักษาสุขภาพช่องปากที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะหินปูนหากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน จะเป็นสาเหตุของโรคเหงือกและปัญหาอื่นๆ ที่ตามมาได้
แต่เมื่อไหร่กันที่เราควรจะไปขูดหินปูน?
คำตอบคือ ควรไปขูดหินปูนอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง หรือตามที่ทันตแพทย์แนะนำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีอาการดังต่อไปนี้:
มีกลิ่นปากเรื้อรัง: แม้ว่าจะแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอแล้ว
เหงือกบวมแดง: หรือมีเลือดออกขณะแปรงฟัน
ฟันโยกคลอน: หรือมีช่องว่างระหว่างฟันเพิ่มขึ้น
รู้สึกเสียวฟัน: โดยเฉพาะเมื่อรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มร้อนเย็น
มีคราบหินปูนสีเหลืองหรือน้ำตาลเกาะตามขอบเหงือก: ซึ่งสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
หากปล่อยให้หินปูนเกาะอยู่บนฟันเป็นเวลานาน จะส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปาก ดังนี้:
โรคเหงือก: หินปูนจะก่อให้เกิดการอักเสบของเหงือก ทำให้เหงือกบวมแดง มีเลือดออกง่าย และอาจนำไปสู่โรคปริทันต์ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการสูญเสียฟัน
ฟันผุ: หินปูนเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุ
กลิ่นปาก: หินปูนเป็นแหล่งกำเนิดของกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์
ปัญหาในการเคี้ยวอาหาร: หินปูนอาจทำให้ฟันโยกคลอนและส่งผลต่อการเคี้ยวอาหารได้
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดหินปูนได้ง่ายขึ้น:
การสูบบุหรี่: ทำให้เหงือกอักเสบง่ายขึ้น
โรคเบาหวาน: ทำให้การรักษาแผลในช่องปากช้าลง
ยาบางชนิด: ยาบางชนิดอาจทำให้เกิดน้ำลายแห้ง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดหินปูน
การดื่มเครื่องดื่มที่มีสี: เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม
การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง: เช่น ขนมหวาน
การไม่แปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ: หรือแปรงฟันไม่ถูกวิธี
การขูดหินปูนเป็นการรักษาที่ปลอดภัย และไม่เจ็บปวดมากนัก ทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษในการขูดหินปูนออกจากฟัน และขัดทำความสะอาดผิวฟันให้เรียบเนียน หลังจากขูดหินปูนแล้ว คุณจะรู้สึกว่าฟันสะอาด สดชื่น และหายใจได้โล่งขึ้น
หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการขูดหินปูน ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม
สรุป: การขูดหินปูนเป็นการดูแลสุขภาพช่องปากที่สำคัญ ควรทำเป็นประจำตามที่ทันตแพทย์แนะนำ เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากที่ร้ายแรงในอนาคต