ท่อลมร้อน มีกี่ประเภทท่อลมร้อนสามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามวัสดุที่ใช้และลักษณะการใช้งาน โดยแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป ดังนี้:
1. ท่อลมโลหะ
ท่อลมเหล็ก:
มีความแข็งแรงทนทานสูง ทนความร้อนได้ดี เหมาะสำหรับใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความร้อนสูง
มีน้ำหนักมาก และอาจเกิดสนิมได้ง่าย
ท่อลมสแตนเลส:
มีความแข็งแรงทนทานสูง ทนความร้อนและสารเคมีได้ดี ไม่เป็นสนิม เหมาะสำหรับใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความต้องการความสะอาดสูง เช่น โรงงานผลิตอาหาร หรือโรงงานผลิตยา
มีราคาสูง
ท่อลมอะลูมิเนียม:
มีน้ำหนักเบา ทนความร้อนได้ปานกลาง เหมาะสำหรับใช้งานในครัวเรือน หรือโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็ก
มีความแข็งแรงน้อยกว่าท่อลมเหล็กและท่อลมสแตนเลส
2. ท่อลมยืดหยุ่น
ท่อลมอลูมิเนียมฟอยล์:
มีน้ำหนักเบา ยืดหยุ่น และติดตั้งง่าย เหมาะสำหรับใช้งานในครัวเรือน หรือโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็ก
ทนความร้อนได้ปานกลาง และอาจฉีกขาดได้ง่าย
ท่อลมผ้าใบ:
มีความยืดหยุ่นสูง ทนความร้อนได้ดี เหมาะสำหรับใช้งานในบริเวณที่มีการเคลื่อนไหว หรือมีการสั่นสะเทือน
อาจมีราคาสูง และต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษ
ท่อลมพีวีซี:
มีความยืดหยุ่นสูง สามารถดัดโค้งได้ง่าย เหมาะสำหรับใช้กับงานระบบระบายอากาศทั่วไป และงานเครื่องดูดควันในครัวเรือน
ทนความร้อนได้ต่ำกว่าท่อลมโลหะ และท่อลมอลูมิเนียมฟอยล์
3. ท่อลมแบบมีฉนวน
ท่อลมพรีอินซูเลท (Pre-Insulated Duct):
เป็นท่อลมที่หุ้มด้วยฉนวนกันความร้อน ทำให้ช่วยลดการสูญเสียความร้อน และประหยัดพลังงาน
เหมาะสำหรับใช้งานในระบบปรับอากาศ หรือระบบระบายอากาศที่ต้องการรักษาอุณหภูมิ
ประเภทของท่อลมตามลักษณะการใช้งาน
ท่อสไปรัล หรือ ท่อเกลียว:
มีทั้งแบบกลม และแบบรี เหมาะกับงานท่อดักท์ที่ต้องการความแข็งแรงสูง โชว์เปลือย
ท่อเหลี่ยม:
เหมาะกับงานท่อดักท์ส่งลม ท่อดักระบายความร้อน ใช้กับงานทั่วไป
ท่อลมอ่อน:
เหมาะกับงานท่อดักส์ส่งลม งานแอร์ มีความยืดหยุ่นสูง
ท่อระบายอากาศ (Exhaust Air Duct):
การระบายอากาศที่มีมลพิษหรืออากาศที่ไม่บริสุทธิ์ผ่านท่อระบายอากาศออกจากภายในอาคารไปยังภายนอกอาคาร
ท่อเติมอากาศ (Fresh Air Duct):
ท่อที่ทำหน้าที่ในการนำอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกเข้าสู่ภายในอาคารเพื่อเพิ่มคุณภาพอากาศภายใน
ท่อดึงลมกลับ (Return Air Duct):
ทำหน้าที่โดยการนำอากาศที่ถูกใช้แล้วหรืออากาศเก่าจากภายในอาคารกลับเข้าสู่ระบบปรับอากาศเพื่อทำการปรับอุณหภูมิและกรองอากาศใหม่
การเลือกประเภทของท่อลมร้อนที่เหมาะสม ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น อุณหภูมิและความดันของอากาศร้อน สภาพแวดล้อมในการใช้งาน และงบประมาณ