เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 

ข่าว:

โพสต์ขายของฟรี  ลงโฆษณาสินค้าฟรี  โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี  เว็บฟรีไม่จำกัด  ทำ SEO ติด Google



































































































































แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 39
1
ไหว้พระ 10 วัดสวย ภาคตะวันออก ทำบุญ เสริมดวง

อย่างที่เรารู้กันดีว่าที่เที่ยวทาง ภาคตะวันออก นั้นมักจะเป็นที่เที่ยวทะเลเป็นส่วนใหญ่ แต่ๆ อยากให้ลองมาเยือน วัดสวย ในภาคนี้กันบ้าง เพราะมีเยอะแยะ งดงามมากมายเต็มไปหมด งั้นไปดู 10 วัดสวย ภาคตะวันออก ไหว้พระ เสริมดวง กันเลยดีกว่าค่า

พิกัด วัดสวย ภาคตะวันออก ที่เที่ยวไหว้พระ ใกล้กรุงเทพ

1. วัดแสนสุขสุทธิวราราม ชลบุรี

     วัดแสนสุขสุทธิวราราม หรือ วัดแสนสุข หรือ วัดหลวงพ่อท้วม อีกด้วย เป็นวัดเก่าแก่ ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2499 โดยเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ได้รวบรวมความเชื่อต่างๆ ในพระพุทธศาสนาเอาไว้นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น สวนพุทธ เมืองสวรรค์ และแดนนรก มีประติมากรรมทางธรรมะ ให้ชาวพุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้มาชมกัน และยังเป็นคติธรรมสอนใจอีกด้วยค่ะ อีกทั้งภายในวัดยังมี มหาเจดีย์เกตุแก้ว วัดแสนสุข ซึ่งมีความงดงามมากๆ ด้วย ด้านนอกมีรูปปั้นพญานาคที่สวยงาม ภายในเจดีย์ประดิษฐาน พระบรมธาตุ พระธาตุ อัญญมณีธาตุ ให้ได้มากราบไหว้ เพื่อความเป็นสิริมงคลกันค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.

2. วัดห้วยใหญ่ ชลบุรี

     วัดห้วยใหญ่ เป็นวัดสวยและวัดดังของ ชลบุรี นี่เองค่ะ และเป็นวัดที่มีเจ้าอาวาสเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่ง ภาคตะวันออก ก็คือ หลวงพ่อก้าน หรือ พระภัทธรกิจวิบูรณ์ นั่นเอง ทำให้วัดห้วยใหญ่นี้ มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา และเป็นวัดที่ชาวชลบุรีให้ความศรัทธาอย่างมาก

      ภายในพระอุโบสถประดับประดาอย่างสวยงาม เพื่อระลึกถึงหลวงพ่อก้าน รวมถึงมีสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงพ่อก้านบรรจุอยู่ในโลงแก้ว เพื่อให้ประชาชนเข้ามากราบไหว้บูชาอีกด้วย และทางวัดเองยังมี พิธีสวดสะเดาะเคราะห์ บังสุกุลเป็น-ตาย เสริมดวงชะตา และรับน้ำพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล ตามความเชื่อ โดยพิธีนี้ได้สืบทอดมาเป็นยาวนานตั้งแต่สมัยหลวงพ่อก้าน ที่ไม่ว่าใครต่างก็ต้องเดินทางมาทำพิธีกันค่า

    ที่อยู่ : ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-15.30 น.

3. วัดน้ำตกธรรมรส ระยอง

     มาเยือน วัดสวย ใน ระยอง กันบ้างดีกว่า ณ วัดน้ำตกธรรมรส ที่เป็นสถานที่ปฏิบัติกรรมฐานอันสงบเงียบ และเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมได้นั่นเองค่ะ ความโดดเด่นของวัดก็คือ โบสถ์สีชมพู ที่สวยงามนี้ อีกทั้งภายในวัดยังมีประติมากรรม รูปปั้นต่างๆ ทั้ง พระพุทธรูปปางพระเจ้าเปิดโลก พระโพธิสัตว์ หอระฆังปราบมาร รูปปั้นพระพุทธองค์ทรงโปรดองคุลีมาล รูปปั้นหลวงพ่อโต เป็นต้น

    ที่อยู่ : ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.

4. วัดท่ามะกอก ระยอง

     วัดท่ามะกอก แห่งนี้ เป็นวัดที่สร้างขึ้นมาด้วยศิลปะอันงดงามแบบผสมผสาน ไฮไลท์ก็คือ อุโบสถเรือนารายณ์ทรงสุบรรณ ที่อยู่กลางวัดที่เป็นอุโบสถที่มีรูปทรงลักษณะเป็นเรือ และสวยงามด้วยลวดลายที่ทำขึ้นอย่างประณีตรอบๆ อุโบสถนั่นเองค่ะ ทำให้นี่เป็นอีกหนึ่งหนึ่งพิกัด วัดสวย ที่น่ามาแวะชม ถ่ายรูป และไหว้พระกันนั่นเองค่ะ

    ที่อยู่ : 24/7 หมู่ที่ 7 ท่ามะกอก ตำบลพังราด อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.

5. วัดโสธรวรารามวรวิหาร ฉะเชิงเทรา

     วัดโสธรวรารามวรวิหาร หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของ วัดหลวงพ่อโสธร เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่บ้านคู่เมือง ฉะเชิงเทรา มาอย่างยาวนานเลยค่ะ สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธโสธร หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า หลวงพ่อโสธร นั่นเอง พระพุทธรูปปางสมาธิที่หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ โดยเป็นศิลปะฝีมือของช่างล้านช้าง เชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนอย่างมาก

    ที่อยู่ : ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา
    เปิดให้เข้าชม : 07.00-16.30 น.

6. วัดปากน้ำโจ้โล้ ฉะเชิงเทรา

     วัดปากน้ำโจ้โล้ ค่ะ แห่งนี้ เคยเป็นสำนักสงฆ์ในช่วงสมัยอยุธยาตอนปลาย อีกทั้งพื้นที่บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งทัพของพม่าด้วยค่ะ และมีการสร้างเจดีย์ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในสงครามอีกด้วย ความโดดเด่นของวัดที่เป็นไฮไลท์เลยก็คือ อุโบสถสีทอง หนึ่งเดียวในไทยนั่นเองค่ะ ส่วนของหลังคาจะประดับด้วยพญานาคและธรรมจักร มีความประณีตด้วยลวดลายต่างๆ ภายในอุโบสถประดิษฐาน องค์หลวงพ่อโต เป็นพระประธาน ซึ่งจำลองมาจากพระพุทธชินราช และด้านหน้าพระประธานมีรูป พระเจ้าตากสิน อยู่ด้วยเช่นกันค่ะ

    ที่อยู่ : ถนนวนะภูติ ตำบลปากน้ำ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.

7. วัดปากน้ำแขมหนู จันทบุรี

     วัดปากน้ำแขมหนู วัดสวย จันทบุรี ความสวยงามของที่นี่ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ โบสถ์เซรามิกสีน้ำเงิน สวยงาม โดยที่มาของโบสถ์สวยแห่งนี้ก็คือ เมื่อโบสถ์หลังเก่าเริ่มชำรุดทรุดโทรมมากขึ้น ด้วยเหตุที่เพราะวัดตั้งอยู่ติดกับทะเล เลยมีการรื้อสร้างโบสถ์ใหม่ขึ้นมา เลยมีการใช้เซรามิกมาเคลือบชั้นปูนป้องกันอีกชั้นหนึ่งนั่นเองค่ะ ทำให้เกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนสวยๆ แห่งนี้ขึ้นมาค่า

    ที่อยู่ : ตำบลตะกาดเง้า อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-16.00 น.

8. วัดชากใหญ่ จันทบุรี

     วัดชากใหญ่ ของ จันทบุรี แห่งนี้ ถือได้ว่าเป็นวัดมีความร่มรื่นอย่างมาก ภายในวัดก็จะเต็มไปด้วยประติมากรรมเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามากมาย ส่วนของประติมากรรมแต่ละชิ้นเอง ก็งดงามหาชมได้ยากมากๆ ไม่ว่าจะเป็น พระพุทธรูปปางไสยาสน์ พระพุทธรูปปางนาคปรก เป็นต้น บอกเลยว่าวัดนี้ไม่ควรพลาดมาเยือนจริงๆ ค่ะ

    ที่อยู่ : ถนนสาย 3149 หมู่ 11 ตำบลพลิ้ว อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.

9. วัดท่าโสม ตราด

     วัดท่าโสม เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ.2405 ซึ่งภายในวัดจะมีการประดิษฐาน พระพุทธรูปหยกขาว ทรงเครื่องจักรพรรดิ โดยจะเป็นพระพุทธรูปหยกขาวองค์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งหยกนั้นนำมาจากประเทศเมียนมา และยังเป็นพระประธานศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดตราดอีกด้วยค่ะ อีกทั้งยังมีภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนัง ที่บอกเล่าเรื่องราวของภาพพุทธประวัติอย่างสวยงามมากเช่นเดียวกันค่ะ

    ที่อยู่ : 58 หมู่ 1 ตำบลท่าโสม อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.

10. วัดไผ่ล้อม ตราด

     วัดไผ่ล้อม สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2326 เป็นวัดที่มีความสำคัญของจังหวัดตราด ภายในวัดมี เจดีย์สามท่านเจ้าคุณ ซึ่งเป็นเจดีย์รูปทรงระฆังคว่ำ แปดเหลี่ยมสองชั้น ปิดทับด้วยกระเบื้องโมเสคจากประเทศอิตาลีทั้งองค์สวยงาม องค์เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ตั้งอยู่ภายใน สวนพุทธธรรม จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวมากราบไหว้ สักการะ อีกทั้งยังเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรมอีกด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : 236 ตำบลบางพระ อำเภอเมือง จังหวัดตราด
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.

2
doctor at home: จอตาลอก (Retinal detachment)

จอตา (retina)* อาจเกิดการฉีกและหลุดลอกออกจากผนังลูกตาชั้นกลางหรือเนื้อเยื่อคอรอยด์ (choroid) ที่อยู่ข้างใต้ซึ่งมีหลอดเลือดส่งสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงจอตา เมื่อหลุดลอกเซลล์ประสาทจอตาก็จะขาดเลือดมาเลี้ยง ทำให้เกิดอาการตามัวมองไม่เห็นได้





จอตาลอกถือเป็นภาวะฉุกเฉิน หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็อาจทำให้สายตาพิการอย่างถาวรได้

โรคนี้ส่วนใหญ่เกิดจากความเสื่อมตามอายุ ซึ่งพบบ่อยในคนอายุมากกว่า 50 ปี และอาจมีประวัติว่าเคยเป็นโรคนี้มาก่อน หรือมีคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ด้วย

* จอตา (retina) หรือจอประสาทตา เป็นผนังชั้นในสุดที่บุอยู่ภายในลูกตาด้านหลัง มีลักษณะเป็นเยื่อบางใส ประกอบด้วยเซลล์ประสาทจำนวนมาก ทำหน้าที่รับภาพ (แสงและสี) ที่ผ่านกระจกตาและแก้วตาลงมาตกกระทบที่จอตา แล้วส่งสัญญาณภาพผ่านเส้นประสาทตา (optic nerve) ไปที่สมอง

จอตาส่วนที่อยู่ตรงกลาง (central portion) จะมีเซลล์ประสาทรับรู้ทั้งแสงและสี ซึ่งเป็นเซลล์รูปกรวย (cones) อยู่อย่างหนาแน่น เป็นจุดที่เห็นภาพได้คมชัดที่สุด เรียกว่า จุดภาพชัด (macula) ซึ่งจะทำหน้าที่ในช่วงที่มีแสงมาก และการมองเห็นสี ถ้าจอตาส่วนนี้ผิดปกติจะทำให้สายตา (การเห็น) ไม่ชัด และความสามารถในการมองเห็นสีลดลง

ส่วนจอตาที่อยู่รอบนอก (peripheral portion) ของจุดภาพชัด ประกอบด้วยเซลล์ประสาทรับรู้แสง ซึ่งเป็นเซลล์รูปแท่ง (rods) ทำหน้าที่ในช่วงที่มีแสงน้อย ถ้าจอตาส่วนนี้ผิดปกติจะทำให้การมองเห็นภาพตอนกลางคืนหรือในที่สลัวลดลง และการมองเห็นภาพบริเวณรอบ ๆ ลดลง

จอตาจะมีเลือดมาเลี้ยง ซึ่งมาจากหลอดเลือดที่อยู่ในผนังลูกตาชั้นกลาง หรือเนื้อเยื่อคอรอยด์ (choroid) ซึ่งอยู่ใต้ชั้นจอตา


สาเหตุ

อาจเกิดจากจอตามีรอยฉีกหรือเป็นรู ปล่อยให้ของเหลวของน้ำวุ้นลูกตาแทรกซึมเข้าไปเซาะให้จอตาลอก หรือจอตาส่วนที่ยึดติดแน่นกับส่วนผิวของน้ำวุ้นลูกตาถูกแรงดึงรั้งจากน้ำวุ้นลูกตา ทำให้จอตาหลุดลอกจากผนังลูกตา หรือมีสิ่งซึมเยิ้ม (exudation) สะสมอยู่ใต้ชั้นจอตา

สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากน้ำวุ้นลูกตาด้านหลังที่เสื่อมตามอายุ มีการหดตัวและลอกออกจากจอตา (posterior vitreous detachment)* เกิดแรงดึงรั้งต่อจอตา

นอกจากนี้ยังอาจพบได้บ่อยในผู้ที่มีสายตาสั้นชนิดรุนแรง เป็นเบาหวานที่มีโรคของจอตาแทรกซ้อน การได้รับบาดเจ็บที่ลูกตา การผ่าตัดต้อกระจกหรือภายในลูกตา การติดเชื้อหรือการอักเสบภายในลูกตา เนื้องอกหรือมะเร็งที่เกิดภายในลูกตาหรือแพร่กระจายจากที่อื่น

*พบบ่อยในคนอายุมากกว่า 70 ปี พบน้อยในคนอายุต่ำกว่า 50 ปี จะมีอาการมองเห็นเงาหยากไย่ ยุง หรือแมลงวัน ร่วมกับเห็นแสงวาบคล้ายฟ้าแลบ (อ่านเพิ่มเติมที่หัวข้อ "อาการเห็นเงาหยากไย่ (floaters)" ด้านล่าง)

อาการ

ผู้ป่วยจะมีอาการมองเห็นผิดปกติ โดยไม่มีอาการปวดตา

ระยะแรกเริ่มจะมองเห็นแสงวาบคล้ายฟ้าแลบ หรือแสงแฟลชถ่ายรูปในตาข้างหนึ่งหรือ 2 ข้าง ขณะหลับตาหรืออยู่ในที่มืด (ซึ่งมักเกิดจากจอตาถูกกระตุ้นจากแรงดึงรั้งของน้ำวุ้นลูกตา) และมีอาการเห็นเงาหยากไย่ ยุง หรือแมลงวันลอยไปมาที่เกิดขึ้นฉับพลันและมีจำนวนมาก และมีอาการตามัว (อาจเห็นคล้ายมีหมอกบัง/เห็นเงาคล้ายม่าน/เห็นภาพเป็นคลื่น ๆ หรือคดงอ) ร่วมด้วย

หากไม่ได้รับการรักษา และปล่อยให้เป็นอยู่นาน ๆ ผู้ป่วยจะเริ่มรู้สึกว่าเห็นเงาอยู่ที่ขอบของลานสายตา ซึ่งจะขยายใหญ่ขึ้นจนเต็มลานสายตาภายในไม่กี่วัน

อาการเห็นเงาหยากไย่ (floaters)

เป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อย่างเข้าสู่วัยกลางคน จะมองเห็นเงาคล้ายหยากไย่ ยุง หรือแมลงวัน ลอยไปมาอยู่ในลูกตาข้างเดียวหรือ 2 ข้าง เห็นชัดในที่สว่าง โดยเฉพาะเวลาแหงนมองท้องฟ้าใส มองไปที่ผนังสีขาว หรือก้มลง (เช่น ขณะดื่มน้ำ) ทำให้นึกว่ามีหยากไย่อยู่ที่ข้างนอกลูกตา และพยายามขยี้ตาแต่เงาก็ไม่หาย สร้างความรำคาญ นาน ๆ เข้าก็รู้สึกเคยชิน

ส่วนใหญ่เกิดจากน้ำวุ้นลูกตาเสื่อม (vitreous degeneration) และหดตัวเล็กลง ทำให้สารโปรตีนในน้ำวุ้นหนาตัวกลายเป็นเศษเส้นใยลอยอยู่ในน้ำวุ้นลูกตา บังแสงที่ผ่านมาที่จอตา ทำให้เห็นเงาของเศษเส้นใยคล้ายเงาหยากไย่ลอยไปลอยมา ภาวะนี้มักพบในคนอายุมากกว่า 40 ปี และไม่มีอันตราย นอกจากสร้างความรำคาญ ไม่จำเป็นต้องให้การรักษาใด ๆ บางคนอาจค่อย ๆ จางหายไปได้อย่างช้า ๆ

นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากสาเหตุที่อาจมีอันตรายร้ายแรง ได้แก่

    น้ำวุ้นลูกตาด้านหลังลอก (posterior vitreous detachment/PVD) เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบในผู้ที่มีน้ำวุ้นลูกตาด้านหลังเสื่อม บางรายเนื่องจากน้ำวุ้นมีการหดตัวและมีความเข้มข้นมากกว่าเดิม ทำให้น้ำวุ้นลูกตาหลุดลอกจากจอตา ถ้ามีการดึงรั้งจอตา ก็มักจะกระตุ้นให้เกิดอาการเห็นแสงวาบคล้ายแสงฟ้าแลบหรือแสงแฟลชถ่ายรูป ร่วมกับอาการมองเห็นเงาหยากไย่

    เลือดออกในน้ำวุ้นลูกตา (vitreous hemorrhage) ซึ่งเกิดจากจอตาเสื่อมจากเบาหวาน (diabetic retinopathy) จอตาฉีก (retinal tear) จุดภาพชัดเสื่อมตามอายุ (age-related macula degeneration) ภาวะเลือดออกง่าย หลอดเลือดดำจอตาอุดตัน การได้รับบาดเจ็บ ผู้ป่วยจะมีอาการตามืดมัวลงอย่างฉับพลัน ร่วมกับเห็นเงาหยากไย่ ซึ่งจะมีอาการมากขึ้นเรื่อย ๆ บางรายอาจเห็นสีแดง (สีเลือด) บังอยู่ในตา หากสงสัยควรส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว

    จอตาฉีก (retinal tear)/จอตาลอก (retinal detachment) ทำให้มองเห็นเงาหยากไย่ที่เกิดขึ้นฉับพลันและมีจำนวนมาก ร่วมกับการมองเห็นแสงวาบคล้ายฟ้าแลบและตามัว
    ผนังลูกตาชั้นกลางด้านหลังอักเสบ (posterior uveitis) อาจเกิดจากการติดเชื้อ (เช่น เอดส์) หรือปฏิกิริยาภูมิต้านตนเอง มักมองเห็นเงาหยากไย่จำนวนมากร่วมกับตามัว

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีอาการเห็นเงาหยากไย่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเงาที่เกิดขึ้นใหม่ เกิดขึ้นฉับพลัน เห็นเงาจำนวนมาก หรือมีอาการเห็นแสงวาบคล้ายฟ้าแลบ หรือตามัวร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วเพื่อตรวจหาสาเหตุ ในรายที่ไม่พบความผิดปกติร้ายแรง ไม่จำเป็นต้องให้การรักษาแต่อย่างใด แต่ควรติดตามตรวจกับแพทย์เป็นระยะ


ภาวะแทรกซ้อน

หากปล่อยไว้ไม่รักษา มักจะทำให้สายตาเสื่อมลงหรือพิการอย่างถาวร


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและการตรวจวัดสายตามักพบว่าผิดปกติ

บางรายอาจพบสายตาสั้น หรือเป็นเบาหวาน

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจวัดสายตา ตรวจลานสายตา ความดันลูกตา ใช้เครื่องมือส่องตรวจจอตา บางครั้งอาจต้องทำการตรวจจอตาด้วยอัลตราซาวนด์


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

ในรายที่เป็นเพียงจอตาฉีกหรือเป็นรูมักจะรักษาด้วยแสงเลเซอร์ (laser surgery) ทำการปิดรูที่ฉีก หรือใช้วิธีจี้ด้วยความเย็น (freezing therapy หรือ cryopexy) บริเวณรอบ ๆ รูหรือรอยฉีก เพื่อช่วยยึดจอตากลับเข้าที่

ในรายที่มีจอตาลอกจำเป็นต้องทำการผ่าตัดแก้ไข

ผลการรักษา ถ้าได้รับการรักษาตั้งแต่มีเพียงภาวะจอตาฉีกหรือเป็นรู หรือจอตาลอกระยะแรกเริ่ม มักจะช่วยให้สายตาฟื้นตัวได้ดี แต่ถ้ารักษาในระยะที่จอตาลอกมากแล้ว หรือมีเลือดออก หรือเป็นแผลเป็นแล้วก็ไม่ช่วยให้สายตาดีขึ้น


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการตามัว เห็นคล้ายมีหมอกบัง/เงาคล้ายม่าน/เห็นภาพเป็นคลื่น ๆ หรือคดงอมองเห็นแสงวาบคล้ายฟ้าแลบ หรือแสงแฟลชถ่ายรูปขณะหลับตาหรืออยู่ในที่มืด เห็นเงาหยากไย่ ยุง หรือแมลงวันลอยไปมาที่เกิดขึ้นฉับพลันและมีจำนวนมาก ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นจอตาลอก ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลา 
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผลดี เนื่องจากอาจเกิดจากสาเหตุได้หลายอย่าง

อาจป้องกันในรายที่มีสาเหตุที่ป้องกันได้ เช่น

    ถ้าเป็นเบาหวานควรควบคุมโรคให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ป้องกันอย่าให้มีโรคของจอตาแทรกซ้อน
    ป้องกันไม่ให้ดวงตาได้รับบาดเจ็บรุนแรง โดยการใส่อุปกรณ์ป้องกันตาเวลาทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บต่อดวงตา

ข้อแนะนำ

ผู้ที่มีอาการมองเห็นแสงวาบคล้ายฟ้าแลบหรือแสงแฟลชถ่ายรูปเวลาหลับตาหรืออยู่ในที่มืด (ไม่ว่าจะมีอาการมองเห็นเงาหยากไย่หรือตามัวร่วมด้วยหรือไม่ก็ตาม) อาจเป็นอาการเตือนก่อนที่จะเกิดภาวะจอตาลอก ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว การได้รับการรักษาแต่เนิ่น ๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้สายตาพิการได้

3
แนวทางการปฏิบัติตัว ขณะเข้ารับการจัดฟันเด็ก เพื่อป้องกันโรคฟันผุ

หลายคนในวัยเด็กอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับฟันผุ ตั้งแต่ยังมีฟันน้ำนม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เรามีปัญหาในเรื่องของฟันในอนาคต สำหรับการเกิดฟันผุนั้น เกิดจากการมีเศษอาหารไปค้างอยู่ตามซอกฟัน หรือมีน้ำตาลจากอาหารที่กินค้างคาอยู่ในปากและสัมผัสกับฟันอยู่เป็นเวลานาน และไม่ได้รับการรักษาความสะอาดฟันที่ดี  จึงทำให้เชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นเชื้อที่อยู่บนแผ่นคราบฟัน เกิดกระบวนการย่อยสลายเศษอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลให้กลายเป็นกรดแลคติก ที่มีฤทธิ์ในการสลายแร่ธาตุซึ่งเป็นโครงสร้างของฟันจนทำให้ฟันผุกร่อนไปทีละน้อยจากชั้นเคลือบฟันภายนอกเข้าไปในเนื้อฟัน จนทะลุถึงชั้นโพรงประสาทฟัน  ซึ่งจะทำให้เกิดอาการปวดฟัน หรือฟันอักเสบเป็นหนอง สำหรับอาการปวดฟันในวัยเด็กนั้น แน่นอนว่า ไม่ใช่เรื่องดี

ทั้งยังเป็นปัญหากวนใจของใครหลายๆคน บางคนโตมายังมีอาการปวดฟันอยู่เลย ซึ่งเป้นสัญญาณที่กำลังจะบอกว่า คุณกำลังมีฟันผุ หรือเหงือกอักเสบ นั่นไม่ใช่เรื่องดี เพราะการที่เรามีฟันผุตอนโตนั้น จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก โดยเฉพาะการเข้าสังคม ซึ่งทำให้เสียบุคลิกภาพได้เลยทีเดียว ดังนั้น เด็กทุกๆคนควรที่จะได้รับการปลูกฝังเรื่องของการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันตั้งแต่อายุยังน้อย หรือถ้าหากมีปัญหาเกี่ยวกับฟัน ก็ควรที่จะรีบทำการแก้ไข ซึ่งการแก้ไขปัญหาฟันในวัยเด็กนั้น หากพูดถึงเรื่องของการรักษาหรือแก้ไขปัญหาฟันคงจะหนีไม่พ้น การเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพราะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างหลากหลาย เรียกว่า แก้ได้ทั้งปัญหาฟัน ปัญหาโครงสร้างของใบหน้าที่มีความผิดปกติได้เลย ดังนั้น เด็กที่มีปัญหาในเรื่องของฟัน ควรได้รับการแก้ไขตั้งแต่เด็กๆ เพื่อที่โตไปไม่เกิดฟันผุ อย่างที่บอกว่า หากโตไปแล้วยังมีฟันผุ คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ เพราะจะเป็นอุปสรรคในการทำงาน การใช้ชีวิตประจำวันของเราได้เลยทีเดียว

สำหรับการจัดฟันในเด็กนั้น เป็นการรักษาด้วยการจัดฟันเพื่อแก้ไขความผิดปกติของการสบฟัน หรือตำแหน่งขากรรไกรที่ผิดปกติ ซึ่งการจัดฟันในเด็กจะต้องได้รับความร่วมมือจากเด็กและผู้ปกครองเป็นสำคัญ อีกทั้งยังต้องมีการดูแลช่องปากเป็นอย่างดี ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงการดูแลการปฏิบัติตัว เมื่อเด็กเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อไม่ให้เด็กเกิดฟันผุ อย่างแรกเลยคือ ควรให้เด็กแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์เป็นประจำสม่ำเสมอ ซึ่งได้ผลดีทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ตลอดจนใช้ฟลูออไรด์ในรูปแบบอื่นที่เหมาะสมกับอายุและสภาพฟันในปาก เช่น น้ำยาอมบ้วนปาก ยาเม็ดฟลูออไรด์ ฯลฯ ลดการรับประทานอาหารหวาน หรือกินน้ำตาลให้ถูกวิธี


โดยการกินน้ำตาลในมื้ออาหาร ลดความถี่ในการอมลูกอม ไม่กินหรือเคี้ยวลูกอมที่เหนียวหนับในระหว่างมื้ออาหาร ภายหลังกินอาหารหวานจัด หรือที่มีส่วนผสมของน้ำตาล ให้บ้วนปากแรงๆ ทำความสะอาดฟัน หรือดื่มน้ำตามทันที พยายามอย่าให้มีเศษอาหารหรือลูกอมน้ำตาลติดตามร่องและซอกฟัน พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาเด็กที่เข้ารับการจัดฟันตรวจความผิดปกติบนตัวฟันเป็นประจำ ถ้าเป็นไปได้ควรตรวจช่องปากปีละ 2 ครั้ง แต่เด็กที่เข้ารับการจัดฟัน ก็ต้องเข้าพบทันตแพทย์เป้นประจำทุกเดือนอยู่แล้ว แต่ถ้าหากฟันเป็นรูหรือบิ่นแตก หรือมีจุดดำ ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรคฟันผุ ควรได้รับการบำบัดรักษาแต่เนิ่นๆ ก่อนที่จะลุกลามจนมีอาการปวดเสียว

ซึ่งทำให้การรักษายุ่งยากขึ้นและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากขึ้นด้วย สำหรับเด็กที่ฟันกรามเพิ่งขึ้นโดยเฉพาะในฟันถาวร ควรได้รับการเคลือบร่องฟันป้องกันฟันผุ ซึ่งพบว่า บริเวณรูและร่องฟันเป็นจุดที่ฟันผุได้ง่ายกว่า เพราะเป็นที่กักสะสมเศษอาหารและเชื้อจุลินทรีย์ โอกาสการเกิดฟันผุจึงง่ายกว่าบริเวณอื่น จึงควรได้รับการป้องกันเป็นพิเศษ ทั้งหมดนี้คือแนวทางการปฏิบัติตัวของเด็กที่เข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อที่จะได้ป้องกันการเกิดฟันผุได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด อยากพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันในเด็ก และยังมีประสบการณ์ด้านทันตกรรมเด็กมาอย่างยาวนาน พร้อมที่จะให้คำแนะนำและคำปรึกษาสำหรับเด้กที่อยากเข้ารับการจัดฟันในเด็ก และแนะนำวิธีการดูแลตัวเองขระเข้ารับการจัดฟันได้อย่างถูกต้อง เพื่อเป็นแนวทางให้เด็กได้ปฏิบัติตาม เพื่อที่จะได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะเราอยากเด็กมีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

4
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


5
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: เลือดกำเดา (Epistaxis/Nose bleed)

เลือดกำเดา (เลือดออกจากจมูก) เกิดจากหลอดเลือดฝอยที่บริเวณเยื่อจมูกมีการแตกทำลาย ทำให้มีเลือดออกจากรูจมูก

ส่วนใหญ่เกิดจากหลอดเลือดฝอยที่ผนังกั้นจมูกด้านหน้าแตก มักมีเลือดออกจากจมูกข้างเดียว อาการมักไม่รุนแรง และเลือดหยุดได้ง่าย ภาวะนี้พบบ่อยในเด็ก

ส่วนน้อยเกิดจากหลอดเลือดฝอยที่ผนังจมูกด้านข้างซึ่งอยู่ลึกไปทางด้านหลังของจมูก (มีขนาดที่ใหญ่กว่าหลอดเลือดฝอยที่ผนังกั้นจมูกด้านหน้า) แตก อาจมีเลือดออกจากจมูก 2 ข้าง และอาจมีเลือดออกมาก ซึ่งจะไหลลงคอและปาก ภาวะนี้พบบ่อยในผู้ใหญ่

เลือดกำเดาส่วนมากมักเกิดอาการขึ้นฉับพลัน บางรายอาจมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ บ่อย พบได้ในคนทุกวัย พบบ่อยในเด็กเล็ก (อายุ 2-10 ปี) และผู้สูงอายุ (อายุ 50-80 ปี)

นอกจากนี้ ยังพบได้บ่อยในหญิงตั้งครรภ์ (เนื่องจากหลอดเลือดขยายตัว ทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยแตกได้ง่าย) ผู้ที่สูบบุหรี่ (เนื่องจากบุหรี่ทำให้ระคายเคืองต่อเยื่อบุจมูก จมูกแห้ง) หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จัด (เนื่องจากแอลกอฮอล์ทำให้หลอดเลือดขยายตัว และยับยั้งการแข็งตัวของเลือด)

ส่วนมากจะไม่มีอันตรายร้ายแรง และหายได้เอง


สาเหตุ

โดยมากมักไม่มีสาเหตุร้ายแรง ซึ่งจะมีเลือดออกเพียงเล็กน้อยและหยุดได้เอง

สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ การแคะจมูกหรือสั่งน้ำมูกแรง ๆ การเจออากาศแห้งหรือหนาวเย็น หรือนอนในห้องปรับอากาศ การอักเสบของเยื่อจมูก (เช่น ไข้หวัด หวัดภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ เยื่อจมูกอักเสบ เป็นต้น) การอยู่ในที่สูงซึ่งมีความดันบรรยากาศลดลง (เช่น การนั่งเครื่องบิน การอยู่บนภูเขาสูง)

อาจเกิดจากได้รับบาดเจ็บ (เช่น ถูกแรงกระแทกที่ดั้งจมูก) มีสิ่งแปลกปลอมเข้าจมูก ผนังกั้นจมูกคด ติ่งเนื้อเมือกจมูก การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จัด

อาจพบร่วมกับโรคติดเชื้อ (เช่น หัด มาลาเรีย ไข้เลือดออก เป็นต้น) ภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง โรคตับเรื้อรัง (มีภาวะเลือดออกง่าย) การใช้ยา (เช่น ยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก แก้คัดจมูก)

ผู้ป่วยที่เป็นความดันโลหิตสูง บางครั้งก็อาจมีเลือดกำเดาไหล และถ้ามีความดันโลหิตสูงแบบวิกฤต (hypertensive crisis คือ ความดันช่วงบนมากกว่าหรือเท่ากับ 180 หรือช่วงล่างมากกว่าหรือเท่ากับ 120 มม.ปรอท) ก็มักจะมีอาการเลือดกำเดาไหลบ่อย

ส่วนน้อยอาจมีสาเหตุร้ายแรง เช่น โรคเลือดที่มีเลือดออกง่าย ได้แก่ ฮีโมฟิเลีย มะเร็งเม็ดเลือดขาว โลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อ ไอทีพี เป็นต้น ซึ่งมักมีเลือดออกตามไรฟัน มีจ้ำเขียวขึ้นตามตัว อาจมีเลือดออกที่อื่น ๆ มีไข้ หรือตับโตม้ามโตร่วมด้วย

ในผู้ใหญ่ที่มีเลือดกำเดาบ่อยร่วมกับอาการคัดจมูก หูอื้อหรือมีก้อนบวมที่ข้างคอ อาจเกิดจากมะเร็ง หรือเนื้องอกในจมูกหรือโพรงหลังจมูก


อาการ

มีเลือดสด ๆ ไหลออกทางรูจมูกข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้าง

ถ้าออกที่ด้านหลังของจมูกอาจมีเลือดไหลลงคอและปาก ผู้ป่วยอาจมีอาการไอออกมาเป็นเลือดจากเลือดกำเดาที่ไหลลงคอ หรืออาจกลืนเลือดลงไปในกระเพาะอาหารทำให้อาเจียน หรือมีอาการถ่ายอุจจาระดำ (ซึ่งเป็นเลือดเก่า มาจากเลือดกำเดาที่ไหลลงไปในลำไส้) ในวันต่อ ๆ มา


ภาวะแทรกซ้อน

ถ้าออกมากอาจทำให้เกิดภาวะซีดได้ ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นค่อนข้างน้อย


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก

อาจตรวจพบเลือดกำเดาไหลหรือจุดเลือดออกที่เยื่อจมูก ภาวะซีด (ในรายที่เสียเลือดมาก)

ในรายที่มีโรคที่เป็นสาเหตุของเลือดกำเดา อาจตรวจพบความผิดปกติ เช่น ไข้ น้ำมูกไหล จุดแดงจ้ำเขียวตามตัว เลือดออกตามที่อื่น ๆ ผนังกั้นจมูกคด ติ่งเนื้อเมือกจมูก สิ่งแปลกปลอมในรูจมูก ความดันโลหิตสูง ดีซ่าน ตับโต เป็นต้น

ในรายที่เลือดกำเดาออกรุนแรง เป็น ๆ หาย ๆ บ่อย หรือตรวจพบหรือสงสัยว่ามีโรคที่เป็นสาเหตุของเลือดกำเดา แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น ใช้กล้องส่องตรวจจมูกและโพรงหลังจมูก ตรวจชิ้นเนื้อ ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ เอกซเรย์ ถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เป็นต้น

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ให้การปฐมพยาบาล โดยให้ผู้ป่วยนั่งตัวตรง โน้มตัวไปข้างหน้า ก้มศีรษะเล็กน้อย ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้บีบจมูกทั้ง 2 ข้างให้แน่นเป็นเวลา 10 นาที บอกให้ผู้ป่วยหายใจทางปากแทน

ส่วนมากมักจะได้ผลโดยวิธีดังกล่าว ถ้าไม่ได้ผลให้ทำซ้ำอีกครั้งนาน 10 นาที

ถ้าเลือดยังไม่หยุด แพทย์จะใช้ผ้าก๊อซหรือผ้าสะอาดชิ้นเล็ก ๆ ชุบอะดรีนาลิน ขนาด 1:1,000 ให้ชุ่มสอดเข้าในรูจมูกข้างที่มีเลือดออก ยัดให้แน่น ยานี้จะช่วยให้หลอดเลือดฝอยตีบลงและเลือดหยุดได้ ควรยัดผ้าก๊อซไว้นาน 2-3 ชั่วโมง เมื่อแน่ใจว่าเลือดหยุดดีแล้วจึงค่อย ๆ ดึงออก

ในรายที่เลือดออกไม่หยุด อาจต้องรักษาโดยการจี้ด้วยสารเคมี-ซิลเวอร์ไนเทรต (silver nitrate) หรือจี้ด้วยความร้อน (electrocautery)

2. ในรายที่แพทย์ทำการตรวจเพิ่มเติม พบภาวะซีด หรือโรคที่เป็นสาเหตุ ก็จะทำการรักษาภาวะ/โรคที่ตรวจพบ เช่น ให้ยาบำรุงโลหิตในรายที่มีภาวะซีดจากการเสียเลือด, ให้ยารักษาโรค (เช่น ไข้หวัด หวัดภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคเลือด), ปรับเปลี่ยนยา (ที่ใช้รักษาโรคอยู่เดิม) ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เลือดกำเดาไหล, เอาสิ่งแปลกปลอมออก, ผ่าตัดแก้ไข (เช่น ผนังกั้นจมูกคด เนื้องอกในโพรงจมูก) เป็นต้น

ผลการรักษา ส่วนใหญ่หายได้ภายในเวลาสั้น ๆ โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน แต่ถ้าหลังจากนั้นผู้ป่วยไม่ได้หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการ ก็อาจกำเริบซ้ำได้อีก

ส่วนน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ ซึ่งมีโรคที่เป็นสาเหตุของเลือดกำเดา จำเป็นต้องได้รับการรักษาโรคที่เป็นสาเหตุอย่างต่อเนื่อง
 

วิธีห้ามเลือดกำเดา

การปฐมพยาบาล สำหรับอาการเลือดกำเดาไหล

    จัดให้ผู้ป่วยนั่งตัวตรง โน้มตัวไปข้างหน้า ก้มศีรษะเล็กน้อย
    ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้บีบจมูกทั้ง 2 ข้างให้แน่น บอกให้ผู้ป่วยหายใจทางปากแทน นาน 10 นาที
    ถ้าคลายนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ที่บีบจมูกออกแล้วเลือดยังไม่หยุด ให้ทำการบีบจมูกตามขั้นตอนข้างต้นซ้ำอีกครั้ง นาน 10 นาที ถ้าเลือดยังไม่หยุดควรรีบไปพบแพทย์ หรือให้แพทย์ทำการช่วยเหลือด้วยวิธีอื่นต่อไป

หมายเหตุ

    ระหว่างให้การปฐมพยาบาล อย่าให้ผู้ป่วยนอนราบหรือเงยหน้าขึ้น เพราะผู้ป่วยอาจกลืนเลือดลงไประคายต่อกระเพาะอาหาร เกิดอาการอาเจียนได้ หากมีเลือดไหลลงคอหรือปาก ควรคายออก อย่ากลืนลงไป
    หลังจากให้การช่วยเหลือจนเลือดหยุดแล้ว ควรระวังไม่ให้มีเลือดกำเดาออกอีก โดย
    - รักษาศีรษะให้อยู่ในระดับสูงกว่าหัวใจ อย่าก้มศีรษะให้อยู่ต่ำกว่าระดับหัวใจ และห้ามออกแรงเบ่ง ยกของหนัก เป็นเวลา 4-5 ชั่วโมง
    - ห้ามสั่งน้ำมูก แคะจมูก ขยี้จมูก เป็นเวลา 4-5 วัน
    - ถ้าเป็นไปได้ควรระวังไม่ให้ไอ จาม


การดูแลตนเอง

1. เมื่อมีเลือดกำเดาไหล ควรทำการปฐมพยาบาล

ควรไปพบแพทย์โดยเร็ว ถ้ามีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ทำการปฐมพยาบาลไม่ได้ผล หรือมีเลือดกำเดาออกนานเกิน 20 นาที
    เลือดออกมาก หรือมีเลือดออกตามที่อื่น ๆ
    หายใจลำบาก
    มีอาการอาเจียนเพราะกลืนเลือดลงกระเพาะอาหารมาก
    ได้รับบาดเจ็บรุนแรง เช่น รถชน ตกจากที่สูง ถูกทุบตีที่ศีรษะ/ใบหน้า/จมูก
    มีภาวะซีดจากการเสียเลือด หรือมีจุดแดงจ้ำเขียวตามตัว
    มีประวัติกินยาต้านเกล็ดเลือด/สารกันเลือดเป็นลิ่ม
    มีโรคประจำตัว เช่น โรคเลือด ความดันโลหิตสูง โรคตับเรื้อรัง
    พบในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี
    เป็น ๆ หาย ๆ บ่อย

2. กรณีที่ไปพบแพทย์ เมื่อได้รับการรักษาจากแพทย์ ควรดูแลตนเองดังนี้

    กินยาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามการรักษาตามที่แพทย์นัด
    ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
    - มีเลือดกำเดาไหลไม่หยุดหรือกำเริบใหม่
    - เจ็บหรือแน่นจมูกมาก หายใจลำบาก ปวดศีรษะมาก อาเจียนบ่อย มีไข้สูง เบื่อ อาหาร หรือน้ำหนักลด
    - กินยาที่แพทย์ให้กลับไปกินที่บ้าน แล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ) ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด


การป้องกัน

สำหรับเลือดกำเดาที่พบบ่อยซึ่งมักเกิดจากสาเหตุที่ป้องกันได้ ควรปฏิบัติ ดังนี้

    หลีกเลี่ยงการแคะจมูก และตัดเล็บให้สั้น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก)
    หลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรง ๆ
    ไม่สูบบุหรี่
    จำกัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่ม
    ถ้าเป็นหวัด น้ำมูกไหล ใช้ยาตามขนาดที่แพทย์แนะนำ และไม่ใช้ติดต่อกันนาน ๆ
    หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อากาศแห้งหรือหนาวเย็น ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ควรพ่นรูจมูกด้วยสเปรย์น้ำเกลือ/หยอดจมูกด้วยน้ำเกลือ วันละ 2-3 ครั้งเพื่อให้จมูกชุ่มชื้น
    ถ้ามีอาการเลือดกำเดาเวลานอนในห้องปรับอากาศ ควรตั้งเครื่องเพิ่มความชื้นไว้ในห้อง หรือวางภาชนะใส่น้ำ (เช่น แก้ว ขัน กระป๋อง กะละมัง) ไว้ใกล้หัวนอน เพื่อเพิ่มความชื้น และ/หรือใช้วาสลินป้ายในรูจมูกก่อนนอน
    ถ้าทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บต่อศีรษะ/จมูก ควรใช้อุปกรณ์ป้องกัน
    ในรายที่เกิดจากสาเหตุที่ป้องกันได้ เช่น ไข้หวัด หวัดภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ ความดันโลหิตสูง เป็นต้น ก็ควรดูแลรักษาโรคเหล่านี้ให้ถูกต้อง

ข้อแนะนำ

1. เลือดกำเดาส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พบในเด็ก มักไม่รุนแรง และหยุดได้ภายใน 20 นาที โดยอาจหยุดได้เองหรือหลังให้การปฐมพยาบาล อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีเลือดกำเดาไหลนานหรือรุนแรง หรือเป็น ๆ หาย ๆ บ่อย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ

2. ผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุ หากมีเลือดกำเดาไหล อาจมีความรุนแรง มีเลือดไหลมากและนานได้ เนื่องจากอาจมีโรคประจำตัว (เช่น โรคเลือด โรคตับเรื้อรัง ความดันโลหิตสูง มะเร็งโพรงหลังจมูก) หรือกินยารักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดที่มีผลทำให้เลือดออกง่าย (เช่น ยาต้านเกล็ดเลือด สารกันเลือดเป็นลิ่ม) ดังนั้น เมื่อมีเลือดกำเดาเกิดขึ้น ควรเฝ้าสังเกตอาการ หากมีเลือดกำเดาออกมากหรือนานเกิน 20 นาที ก็ควรรีบไปพบแพทย์

6
การสร้างอาชีพ จากเมนูข้าวผัดกุนเชียง เมนูที่หลายคนชื่นชอบทำง่าย รสชาติกลมกล่อมเนื้อสัมผัสนุ่มลิ้นหวานเล็กน้อย

ข้าวผัดคุณเชียงเป็นเมนูยอดนิยมของคนไทย ที่มีรสชาติกลมกล่อม เนื้อสัมผัสนุ่มลิ้นและความหวานเล็กน้อย อาหารจานเดียวจานนี้นอกจากจะทำง่ายและรวดเร็วแล้ว ยังมีส่วนผสมที่ลงตัวซึ่งถูกใจทั้งต่อมรับรสและกระเพาะอาหารด้วยรสชาติที่กลมกล่อม หอมกุนเชียงและทำได้ง่าย ทำให้เป็นเมนูที่หลายคนชื่นชอบปรับสามารถปรับแต่งสูตรได้ตามต้องการ

วัตถุดิบ:
ข้าวหอมมะลิหุงสุก 2 ถ้วย (ควรใช้ข้าวเก่า 1 วันเพื่อให้มีเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้น)
กุนเชียง 100 กรัม (หั่นเป็นแผ่นบาง)
หัวหอมเล็ก 1 หัว (สับ)
กระเทียม 2 กลีบ (สับ)
ไข่ 1ฟอง (ตีแล้ว)
ถั่วลันเตาและแครอทแช่แข็ง 1/4 ถ้วย (ไม่จำเป็น)
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนชา
น้ำตาล 1/2 ช้อนชา
ผักชีสด (สำหรับตกแต่ง)
มะนาวฝานเป็นแว่น (สำหรับเสิร์ฟ)
พริกป่นหรือพริกสด (ตามชอบเพื่อความเผ็ดร้อน)
คำแนะนำ:
เตรียมส่วนผสม : เริ่มต้นด้วยการหั่นกุนเชียงเป็นแผ่นบาง ๆ หากใช้ข้าวเก่า 1 วัน ให้บี้ก้อนข้าวที่ติดกันให้แยกออกจากกัน ตีไข่ในชามเล็กแล้วพักไว้

ทอดไส้กรอก : ตั้งน้ำมันหนึ่งช้อนโต๊ะในกระทะขนาดใหญ่หรือกระทะจีนบนไฟปานกลาง ใส่ไส้กรอกจีนหั่นบาง ๆ ลงไปแล้วผัดจนไส้กรอกเริ่มเป็นสีน้ำตาลและปล่อยน้ำมันที่มีรสชาติ ไส้กรอกจะเพิ่มรสชาติหวานและเผ็ดเล็กน้อยให้กับจานอาหาร

ผัดเครื่องปรุง : ใส่กระเทียมสับและหัวหอมสับลงในกระทะพร้อมกับไส้กรอก ผัดจนกระเทียมหอมและหัวหอมนิ่ม

ตีไข่ : ดันส่วนผสมไส้กรอกและหัวหอมไปไว้ด้านหนึ่งของกระทะ แล้วเทไข่ที่ตีแล้วลงไปในช่องว่าง ปล่อยให้ไข่สุกเล็กน้อยก่อนจะตีและผสมกับส่วนผสมอื่นๆ

ใส่ข้าวและผัก : ใส่ข้าวที่หุงสุกแล้วลงในกระทะ โดยแยกก้อนข้าวที่เหลือออก ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน หากคุณใช้ถั่วลันเตาและแครอท ให้ใส่ในขั้นตอนนี้และปรุงจนร้อนทั่ว

ปรุงรส : ใส่ซีอิ๊วขาว น้ำปลา และน้ำตาลลงในส่วนผสมข้าว คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนข้าวมีรสชาติดี ชิมรสและปรับรสตามต้องการ โดยเติมซีอิ๊วขาวหรือน้ำปลาเพิ่มหากต้องการให้เค็ม หรือเติมน้ำตาลเล็กน้อยหากต้องการให้หวาน

เสิร์ฟ : เมื่อผสมทุกอย่างเข้ากันดีและอุ่นให้ร้อนแล้ว ตักข้าวผัดใส่จาน โรยหน้าด้วยผักชีสด และเสิร์ฟพร้อมมะนาวฝานบาง ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติเผ็ดร้อน ให้ใส่พริกป่นหรือพริกสดหั่นเป็นแว่น

เหตุใดคุณจึงจะรักมัน: ข้าวผัดกุนเชียงเป็นเมนูที่ผสมผสานรสชาติหวาน เค็ม และเผ็ดได้อย่างลงตัว โดยกุนเชียงทำให้ข้าวมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นเมนูที่อิ่มท้องด้วยกลิ่นหอมของข้าวผัด ไส้กรอกที่เคี้ยวเพลิน และผักกรุบกรอบ ไม่ว่าคุณจะทานเป็นอาหารเช้า อาหารกลางวัน หรืออาหารเย็น ข้าวผัดกุนเชียงก็จะกลายเป็นเมนูโปรดของคุณอย่างแน่นอน

เพลิดเพลินกับความเรียบง่ายแสนอร่อยของข้าวผัดกุนเชียงแบบไทย และปรับแต่งสูตรได้ตามต้องการโดยเพิ่มผักหรือโปรตีนที่คุณชื่นชอบเพื่อความหลากหลายมากขึ้น

7
รถรับจ้างขนของจังหวัดนนทบุรี ราคาถูก และคนยกด้วย ย้ายบ้าน ย้ายสำนักงาน รับจ้างขนของ ทั่วไป

จังหวัดนนทบุรีถือว่าเป็นจังหวัดที่ ใครหลายๆคนย้ายสถานที่ทำงานหรือเข้ามาทำงานยังจังหวัดนี้เป็นจำนวนมาก จึงทำให้ เกิดการขนย้ายของ ขนย้ายสินค้าจากโรงงานอุตสาหกรรมหนึ่ง ไปยังอีกที่หนึ่งเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะงาน ขนย้ายหอ ย้ายคอนโด ย้ายสำนักงาน ย้ายบ้าน เกิดขึ้นอยู่ทุกวัน เป็นเพราะว่า จังหวัดนนทบุรี เป็นจังหวัดที่มีนิคมอุตสาหกรรมและโรงงานอย่างมากมาย จึงทำให้ธุรกิจ การคมนาคม หรือ ธุรกิจงานขนย้ายของ เติบโตอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะ รถกระบะรับจ้างจังหวัดนนทบุรี ถือได้ว่า มีผู้เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมากเนื่องจาก มีราคาที่ไม่แพง ขนย้ายง่าย มีความสะดวกและคล่องตัว เพราะว่าในบางครั้ง ในพื้นที่ที่คับแคบหรือเดินทางไม่สะดวก หรือไม่สามารถที่จะเข้าซอยเล็กๆได้แต่สำหรับรถ  กระบะรับจ้างขนของนนทบุรี นั้นจะเข้าได้สบายหายห่วงสามารถ เข้าได้ถึงจุดให้บริการจนถึงที่ ทำให้ลูกค้ามีความสะดวกสบายในการขนย้าย จึงได้เกิดงานการจ้างงานอยู่เป็นประจำ

งานขนย้ายส่วนใหญ่ของ รถกระบะรับจ้าง ส่วนมากก็จะเป็นงานย้ายหอพัก ย้าย condominium ย้ายสินค้าทางการเกษตร ย้ายเฟอร์นิเจอร์ รวมไปจนถึงขนย้าย วัสดุก่อสร้างในบางรายการ แต่ไม่ว่างานนั้นจะเป็นงานอะไร ทุกงานบริการ เราก็พร้อมให้บริการท่านตลอด 24 ชั่วโมง โดย ทีมงานรถรับจ้าง เราให้บริการลูกค้าที่ เต็มความสามารถและมีคุณภาพ ราคาไม่แพง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 10 ปี เรารู้ว่าทุกงานบริการ งานขนย้ายของ ของรถกระบะรับจ้างของเรา

เราให้ความสำคัญและเต็มที่กับงานบริการเป็นอย่างมาก จึงทำให้ลูกค้า ที่เคยมาใช้บริการกับเราต้องกลับมาใช้ซ้ำ เพราะเขาเล็งเห็นถึงคุณภาพของเนื้องาน ที่ให้บริการ ความเอาใจใส่ดูแลสินค้า ความมีน้ำใจอัธยาศัยดี และที่สำคัญราคายังถูกอีกด้วย จึงทำให้ลูกค้ากลับมาใช้ซ้ำอยู่หลายครั้ง และสำหรับลูกค้ารายใหม่ๆ เราก็พร้อมให้บริการท่านด้วยเช่นกัน ไม่ว่าคุณต้องการที่จะ ขนย้ายของไปต่างจังหวัด หรือจะวิ่งในเขตกรุงเทพปริมณฑล เราก็พร้อมให้บริการท่านอย่างไม่มีปัญหา ท่านอาจจะตรวจสอบราคาค่าขนย้าย กับเราได้ โดยไม่มีปัญหา ต่อรองราคาได้ ตรวจเช็คกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทาง เบอร์โทรศัพท์ หรือ facebook หรือทาง line เราก็พร้อมให้บริการในทุกช่องทาง

ในทุกๆครั้งที่เราให้บริการ รถรับจ้างขนของ แก่ลูกค้าในเขตนนทบุรีหรือจังหวัดอื่นๆ เรารู้สึกว่าเราภูมิใจและดีใจเป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสรับใช้และช่วยเหลืองานขนย้ายให้กับลูกค้าทุกคน เราคิดอยู่เสมอว่า การบริการที่ดีไม่ใช่เพียงแค่ราคาที่ถูกเท่านั้น การที่เราเอาใจใส่การที่เราตั้งใจทำงาน และขนย้ายของให้กับลูกค้า นั่นคือสิ่งที่ลูกค้าทุกคนต้องการอยากจะได้จากเราดังนั้นเราจึงต้อง ไม่ทำให้ลูกค้าต้องผิดหวัง ทำงานให้เต็มความสามารถ เพราะทีมงาน รถรับจ้างของเราทุกคันนั้น ต่างฝึกฝนและอบรมมาเป็นอย่างดีว่า ลูกค้าคือผู้ที่จะทำให้เราอยู่รอด หากไม่มีลูกค้าแล้วเราจะหารายได้จากที่ไหน บัตรผ่อนชำระค่างวดรถ และเลี้ยงดูครอบครัว ดังนั้น งาน รับจ้างขนย้ายของ ทุกงานเราจึงเต็มที่ และตั้งใจมากเป็นที่สุด

จุดพื้นที่ให้บริการ รถกระบะรับจ้างขนของจังหวัดนนทบุรี มีจุดให้บริการอยู่มากมายหลายจุด ซึ่งมีได้แก่

รถกระบะขนของเขตพื้นที่ เมืองนนทบุรี

รถกระบะขนของเขตพื้นที่ ไทรน้อย

รถกระบะขนของเขตพื้นที่ บางกรวย

รถกระบะขนของเขตพื้นที่ บางบังทอง

รถกระบะขนของเขตพื้นที่บางใหญ่

รถกระบะขนของเขตพื้นที่ ปากเกร็ด

รถกระบะขนของเขตพื้นที่ งามวงศ์วาน

รถกระบะขนของเขตพื้นที่  ม.เกษตร

รถกระบะขนของเขตพื้นที่ หลักสี่

รถกระบะรับจ้างถนน 345

 แต่หากท่านคิดที่จะมาเที่ยวจังหวัดนนทบุรีเราก็ขอจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายสไตล์ให้คุณดังนี้

1. เกาะเกร็ด

2. วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์

3. วัดสวนแก้ว

4. บ้านครูมนตรีตราโมท

5. ตลาดน้ำบางคูเวียง

6. ตลาดน้ำวัดตะเคียน

7. อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก

หากคุณต้องเดินทางมาท่องเที่ยวและซื้อของฝากในปริมาณมากๆต้องการที่จะใช้บริการ รถรับจ้างขนของ รถกระบะรับจ้างขนของจังหวัดนนทบุรี ก็สามารถเรียกใช้บริการเราได้ตลอด 24 ชั่วโมงเรามีรถกระบะรับจ้างทั้งที่เป็นแบบตู้ทึบและแบบคอกสูงไว้คอยบริการคุณ อย่าลืมนะคะสนใจ ต้องการขนย้ายของ สอบถามราคาต่อรองราคาค่าบริการโทรได้ตลอด 24 ชั่วโมง เราพร้อมและยินดีให้บริการคุณอยู่ตลอดเวลา ขอบคุณมากค่ะ

8
บริการด้านอาหาร: อาหารช่วยรักษาบาดแผลกลูตามีนสูงซ่อมแซมเนื้อเยื่อกระตุ้นคอลลาเจน

กลูตามีน หรือที่เรียกว่าแอล-กลูตามีน เป็นหนึ่งในกลุ่มของกรดอะมิโน 20 ชนิดที่สร้างโปรตีน มีมากที่สุดในร่างกายมนุษย์โดยสร้างจากกล้ามเนื้อและขนส่งไปทั่วร่างกายผ่านทางกระแสเลือด ร่างกายสามารถสร้างกลูตามีนได้เอง แต่เรายังสามารถได้รับกลูตามีนจากอาหารต่าง ๆ เพิ่มเติมได้

กลูตามีนมีหน้าที่ในการช่วยสร้างและบำรุงรักษากล้ามเนื้อ ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยเร่งให้แผลที่บริเวณผิวหนังและอวัยวะหายได้เร็วขึ้น รวมถึงยังมีส่วนช่วยสร้างกรดอะมิโนอื่น ๆ ได้อีกด้วยหากเรารับในปริมาณที่เพียงพอกับร่างกายต้องการ

หน้าที่ของกลูตามีน
 
1. ช่วยรักษาบาดแผล

กลูตามีนมีหน้าที่ในการช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และกระตุ้นการเติบโตของเซลล์ใหม่ และนอกจากนี้การเพิ่มขึ้นของเซลล์ที่แข็งแรงในร่างกายยังต้องอาศัยกลูตามีนเป็นแหล่งพลังงานในการสร้างอีกด้วย การรับประทานกลูตามีนจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น และลดความเสี่ยงของการติดเชื้อที่บาดแผลได้ และกลูตามีนช่วยเร่งกระบวนการสมานแผลในแผลไฟไหม้ได้ด้วย

 
2. ช่วยลดระยะเวลาการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อ

กลูตามีนมีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย เพราะกลูตามีนสามารถช่วยเร่งการซ่อมแซมกล้ามเนื้อ การเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ และการฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังจากออกกำลังกาย กลูตามีนยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและลดความเจ็บปวดหลังออกกำลังกาย ผู้ที่รับประทานอาหารกลูตามีนสูงจะสามารถฟื้นตัวได้เร็วหลังออกกำลังกายและมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อน้อยลง

 
3. ส่งเสริมสุขภาพลำไส้ที่ดี

กลูตามีนมีความสำคัญต่อสุขภาพของลำไส้ เพราะกลูตามีนเป็นสารอาหารหลักและเป็นแหล่งพลังงานสำหรับเซลล์ในลำไส้ การรับประทานกลูตามีนอย่างเพียงพอเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้การย่อยอาหารทำงานได้ดี

 
4. จำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกัน

กลูตามีนมีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่เหมาะสม เพราะเป็นแหล่งพลังงานหลักสำหรับเซลล์ภูมิคุ้มกัน และร่างกายต้องการในปริมาณที่เพียงพอเพื่อให้เซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง

สรุป

    กลูตามีนเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายสามารถสร้างได้เอง แต่บางครั้งเราต้องการเพิ่มเติมจากการรับประทานอาหาร
    กลูตามีนมีส่วนสำคัญในการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย
    กลูตามีนช่วยสมานแผล
    กลูตามีนช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย
    กลูตามีนจำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกันและจำเป็นต่อการทำงานของลำไส้

6 อาหารช่วยรักษาบาดแผล กลูตามีนสูง

1. ปลาและอาหารทะเล

ปลา กุ้งและอาหารทะเลต่าง ๆ เป็นแหล่งกลูตามีนที่ดี ปลาน้ำเค็มมีกลูตามีนมากกว่าปลาน้ำจืด ปลาตามธรรมชาติมีกลูตามีนสูงแต่ปลาที่เลี้ยงในฟาร์มบางครั้งจะมีกลูตามีนเช่นกัน นอกจากนี้อาหารทะเลต่าง ๆ ก็มีกลูตามีนด้วย เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล ปู กุ้ง และล็อบสเตอร์ ก็ล้วนเป็นแหล่งอาหารที่ดี

 
2. กะหล่ำปลีม่วง

 กะหล่ำปลีม่วงเป็นหนึ่งในอาหารที่ดีต่อสุขภาพ มีวิตามินซี โพแทสเซียม กรดโฟลิก และวิตามินบี 6 นอกจากนี้ยังมีกลูตามีนในระดับสูงที่สุดเมื่อเทียบกับผักทุกชนิด การรับประทานกะหล่ำปลีม่วงเป็นประจำสามารถช่วยลดอาการอักเสบบริเวณลำไส้ได้

 
3. ถั่วแดง

ถั่วแดงเป็นแหล่งของโปรตีน ไฟเบอร์ และธาตุเหล็ก นอกจากนี้ถั่วแดงยังมีกลูตามีนประมาณ 0.6 กรัมต่อ 100 กรัม แต่ในความเป็นจริงถั่วส่วนใหญ่ก็มีกลูตามีน ไม่ว่าจะเป็นถั่วชิกพี ถั่วเลนทิล และถั่วพินโต รวมถึงถั่วอื่น ๆ อีกมากมาย

 
4. สาหร่ายทะเล

สาหร่ายทะเลเป็นแหล่งที่ดีของกรดอะมิโน ซึ่งรวมถึงกรดอะมิโนอย่างกลูตามีนด้วย สาหร่ายสไปรูลิน่าแห้ง 50 กรัม มีกลูตามีนประมาณ 4,000 มก. หรือประมาณ 4 กรัม รวมถึงสาหร่ายอื่นๆ ก็ให้กลูตามีนที่จำเป็นต่อร่างกายได้

 
5. ผลิตภัณฑ์นม

กลูตามีนเป็นกรดอะมิโนที่มีมากที่สุดในโปรตีนนม ดังนั้นการรับประทานผลิตภัณฑ์นมจึงสามารถช่วยให้คุณไม่ขาดกรดอะมิโนชนิดนี้ นอกจากการดื่มนม เรายังสามารถรับประทานผลิตภัณฑ์นมอื่น ๆ ได้ เช่น นม ชีส และโยเกิร์ต รวมไปถึงอาหารเสริมโปรตีนที่ทำจากเคซีนหรือเวย์ด้วย

 
6. ไข่

ไข่เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับการรับประทานก่อนออกกำลังกายและเพื่อช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ ไข่ให้กลูตามีนในปริมาณที่เหมาะสม เช่นเดียวกับโปรตีน ซีลีเนียม วิตามินเค วิตามินดี และวิตามินบี ไข่ใบใหญ่ 1 ฟองมีกลูตามีน 0.8 กรัม การรับประทานไข่เพียงแค่ 2 ฟองต่อวัน ก็ช่วยให้คุณได้รับกลูตามีนประมาณ 1 ใน 4 ของความต้องการในแต่ละวัน

 

9
ดอกบัวในโถแก้ว: แนะนำวิธีการทำดอกไม้ให้แห้ง เพื่อให้เก็บได้นานขึ้น

เวลาที่เราได้รับช่อดอกไม้สวยๆ จากใครสักคน เราก็ต้องการอยากจะเก็บมันเอาไว้นานๆ เพื่อให้มันเป็นสิ่งแทนใจ และเป็นสิ่งที่บอกว่าเราเคยได้รับสิ่งดีๆ จากคนนี้ แต่ว่าดอกไม้ที่ให้ส่วนใหญ่จะเป็นเดอกไม้สด ซึ่งมันสามารถเหี่ยวเฉา ร่วงโรยได้ตามกาลเวลา ฉะนั้นการจะเก็บให้มันคงอยู่สภาพเดิม คงเป็นไปไม่ได้แน่นอน จึงต้องหาวิธีเก็บรักษาแบบใหม่

และวิธีเก็บรักษาดอกไม้สดให้ได้นานกว่าเดิม ก็คือการเก็บแบบแห้งแทน แม้ว่าจะไม่ได้สวยเหมือนกับของสด แต่ก็ทำให้คุณเก็บได้ยาวนานขึ้นเช่นกัน เดี๋ยวเราจะมาดูกันว่าวิธีการเก็บดอกไม้ที่สดๆ อยู่ ให้เป็นดอกไม้แห้งนั้น ทำยังไงบ้าง เผื่อใครอยากเอาใปใช้เก็บดอกไม้ที่ตัวเองได้รับมา

แนะนำวิธีการทำดอกไม้ให้แห้ง เพื่อให้เก็บได้นานขึ้น

1.ตากดอกไม้

การตากดอกไม้ในที่นี่ ไม่ได้หมายความว่าให้คุณเอาดอกไม้ไปตากแดดเหมือนกับการตากผ้าอะไรแบบนั้น แต่หมายถึงให้เอาดอกไม้ที่คุณต้องการทำให้แห้งมามันกับเชือก โดยให้มันในส่วนของปลายของลำต้น และจากนั้นให้เอาไปแขวนไว้ในห้องด้วยการเอาปลายยอดลง แต่ต้องแขวนเอาไว้ในห้องที่แห้ง อากาศถายเทได้ดี ประมาณ 30 วัน ดอกไม้ก็จะแห่งสนิท

2.ใช้สารดูความชื้น

ดอกไม้ที่ยังสดอยู่ แสดงว่าดอกไม้ยังมีความชื้นอยู่ วิธีการกำจัดความชื้นในดอกไม้ที่ได้ผลอีกอย่าง ก็คือการใช้สารดูดความชื้นเข้ามาช่วย หมายความว่าให้ใช้สารชนิดนั้นที่เป็นซิลิกาเจล นำไปใส่ในภาชนะที่ใหญ่เพียงพอที่จะใส่ดอกไม้ของคุณได้ แล้วจากนั้นก็ให้นำช่อดอกไม้ที่คุณต้องการทำให้แห้งไปวาง โดยให้วางในแนวนอน จากนั้นให้กลบด้วยสารดูดความชื้นให้ทั่ว

3.ใส่เตาไมโครเวฟ

วิธีนี้จะเป็นวิธีที่รวดเร็ว ประหยัดเวลามากที่สุด วิธีการก็คือให้เอาดอกไม้ที่คุณต้องการเก็บ เอาไปใส่ในเจตาไมโครเวฟ จากนั้นให้ทำการเวฟประมาณ 2 นาที แล้วเอาออกมาวางไว้ในอุณหภูมิปรกติ เท่านี้คุณก็จะได้ดอกไม้แห้งอย่างที่ต้องการแล้ว

4.การทับดอกไม้

เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดแต่จะใช้เวลานานหน่อย วิธีการทำก็คือให้เอาดอกไม้ที่คุณต้องการทำให้แห้ง ตัดก้านออกบางส่วน จากนั้นให้เอาไปใส่ในกระดาษทิชชู่หรือการดาษอะไรก็ได้ แล้วให้เอาไปใส่ไว้ในหนังสือที่หนาๆ แล้วก็ทับไว้อย่างนั้น ไม่เกิน 30 วัน ดอกไม้ที่คุณทับไว้ก็จะแห้งสนิท จากนั้นก็สามารถนำมาเก็บใส่กรอบรูป หรือเก็บในหนังสือต่อไปก็ได้

แนะนำเพิ่มเติม

ในการทำดอกไม้ให้แห้งเพื่อให้เก็บได้นานขึ้น ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องทำให้แห้งทั้งช่อก็ได้ ให้เลือกตัดเอาในส่วนที่สวยๆ มาทำเท่านั้นก็พอ แล้วก็เลือกเก็บเฉพาะส่วนนั้น หากทำทั้งหมดเลยอาจจะทำให้ยากต่อการเก็บ และบางทีทำออกมาแล้วไม่สวยด้วย

ส่วนวิธีการทำช่อดอกไม้แห้งแต่ละวิธี ใครจะเลือกทำแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคนเลย เพราะไม่มีวิธีตายตัว วิธีไหนที่คุณคิดว่าจะได้ดอกไม้ที่สมบูรณ์ที่สุด ก็ให้เลือกเอาวิธีนั้น

10
ประโยชน์ของการจัดฟันเด็ก

หลายคนคงเคยกังวลในเรื่องของปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน เพราะนอกจากจะเป็นปัญหาทางด้านสุขภาพในร่างกายของเราแล้ว ยังทำให้ขาดความมั่นใจในรอยยิ้มและบุคลิกภาพของตัวเองอีกด้วย เนื่องจากมีปัญหาฟันซ้อนเก ฟันห่าง หน้าอูม ทำให้ต้องยิ้มแบบเหนียมอาย ปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยการจัดฟัน ถือว่าเป็นการช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพของผู้ป่วยได้เป็นอย่างมาก และเพิ่มความมั่นใจในการดำเนินชีวิตประจำวัน

สำหรับปัญหาเกี่ยวกับการสบฟัน ทำให้กัดฟันแล้วชนเหงือก ริมฝีปาก กระพุ้งแก้ม เป็นผลให้รับประทานอาหารได้ไม่สะดวก บดเคี้ยวอาหารก็ไม่ละเอียด บางรายกัดเส้นก๋วยเตี๋ยวก็ไม่ขาด เป็นที่มาของโรคทางระบบทางเดินอาหาร เช่นกระเพาะอาหารอักเสบ หรือกรดไหลย้อน ซึ่งก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย ในบางกรณีการจัดฟันยังช่วยในเรื่องของการปรับโครงสร้างของใบหน้าในเด็กได้อีกด้วย เพราะการจัดฟันสามารถช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของใบหน้าของเด็กได้ เพราะเด็กยังมีโครงสร้างของใบหน้าและขากรรไกรที่ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ การจัดฟันก็จะช่วยในเรื่องของการปรับโครงหน้าได้ และส่งผลต่อการขึ้นใหม่ของฟันแท้อีกด้วย

สำหรับการจัดฟันในเด็กนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนยังมองว่า ไม่ใช่เรื่องที่จำเป็น แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะเนื่องจากเด็กบางคนมีความผิดปกติของฟันมาตั้งแต่เล็กๆ เด็กบางคนมีขนาดขากรรไกรเล็ก ไม่สมดุลกับจำนวนซี่ฟัน จนทำให้ฟันซ้อน เด็กบางคนขากรรไกรยื่น ฟันสบคร่อม ซึ่งความผิดปกติเหล่านี้ สาเหตุใหญ่จะเกิดจากกรรมพันธุ์ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟัน รวมไปถึงการที่เด็กมีพฤติกรรมต่างๆ เช่น การที่เด็กติดดูดนิ้ว อาจไม่มีผลเสียหายอะไร

หากยังอยู่ในช่วงเด็กเล็ก แต่ถ้าหากเด็กยังติดการดูดนิ้ว ไปจนถึงอายุ 5-6 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ฟันแท้เริ่มขึ้นก็อาจเป็นสาเหตุทำให้ฟันหน้าอยู่ผิดตำแหน่ง ทำให้เกิดการสบฟันที่ผิดปกติขั้นรุนแรงได้ สำหรับการสบฟันที่มีความผิดปกติในเด็กนั้น สามารถสังเกตได้จากพฤติกรรมและสภาพฟันของเด็ก โดยจะมีอาการคือ ฟันซ้อน ฟันขึ้นผิดตำแหน่ง ฟันหน้ายื่น ฟันน้ำนมหลุดเร็วเกินไป หรือหลุดช้าเกินไป หรือต้องเสียฟันน้ำนมแบบไม่ปกติ ฟันสบลึก หรือฟันสบคร่อม ฟันหรือลักษณะขากรรไกร ดูผิดสัดส่วน เด็กยังติดการดูดนิ้วจนอายุเกิน 5 ปี สามารถกัดหรือบดเคี้ยวอาหารลำบาก และชอบหายใจทางปาก นั่นเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า เด็กอาจจะมีความผิดปกติของฟัน และควรที่เข้ารับการจัดฟัน แม้การจัดฟันแบบเบื้องต้นในเด็ก อาจไม่ได้จำเป็นสำหรับเด็กทุกคน หากในช่วงอายุ 7-10 ปี และหากพบสัญญาณของความผิดปกติ ก็จะได้รีบแก้ไขตั้งแต่เนิ่น อาจแก้ไขได้ เพราะเป็นช่วงที่กระดูกขากรรไกรกำลังเจริญเติบโตนั่นเอง

สำหรับประโยชน์ของการจัดฟันในเด็ก นอกเหนือจะทำให้เด็กมีรอยยิ้มที่สวยงาม สดใสสมวัยแล้ว ยังทำให้เด็กมีความมั่นใจ เพราะการจัดฟันในเด็กยังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กได้หลายอย่าง ที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ เมื่อเด็กมีฟันที่เรียงสวยงามเป็นธรรมชาติ ไม่ซ้อนเก เด็กก็จะแปรงฟันได้ง่ายขึ้น ทำความสะอาดได้ดีขึ้น ซึ่งเรื่องความสะอาดในช่องปาก ถือเป็นเรื่องสุขอนามัยเบื้องต้นที่จะอยู่กับเด็กไปตลอดชีวิต

นอกจากนั้นทันตแพทย์ผู้ทำการจัดฟัน อาจมีส่วนช่วยหาทางบรรเทา ภาวะหยุดหายใจขณะหลับในเด็กได้ด้วย สามารถช่วยบำบัดพฤติกรรมเด็กที่ติดการดูดนิ้ว ซึ่งสามารถสร้างผลเสียหาย ต่อการสบฟันในอนาคต ช่วยวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการออกเสียง การหายใจ และการบดเคี้ยวอาหารของเด็กได้เป็นอน่างดี สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง ท่านใดสนใจ จะพาบุตรหลานของท่าน เข้ารับการจัดฟัน สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้จากทางคลินิกได้ ทางเรามีบริการจัดฟันในเด็ก โดยทันตแพทย์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก จึงมั่นใจได้ว่า บุตรหลานของท่านจะมีรอยยิ้มที่สดใส สมวัยอย่างแน่นอน

11
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


12
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


13
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


14
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


15
Doctor At Home: สิ่งแปลกปลอมเข้าจมูก (Foreign body in the nose)

สิ่งแปลกปลอมเข้าจมูก มักพบในเด็กเล็กที่เล่นซนนำสิ่งแปลกปลอม (เช่น เมล็ดผลไม้ เศษอาหาร เศษยางลบ เศษกระดาษ  กระดุม ลูกปัด ชิ้นส่วนของเล่น ถ่านกระดุม เป็นต้น) แยงเข้าไปคาอยู่ในรูจมูก ภาวะนี้พบบ่อยในเด็กอายุ 2-5 ปี

เด็กโตอาจบอกพ่อแม่ได้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมติดในรูจมูก แต่เด็กเล็กที่ยังสื่อสารไม่ได้ อาจแสดงอาการกระสับกระส่าย และมีอาการผิดสังเกตอื่น ๆ

ถ้าพ่อแม่ไม่ได้สังเกตตั้งแต่แรก และปล่อยทิ้งไว้หลายวัน ก็จะทำให้เยื่อจมูกเกิดการอักเสบ และมีภาวะแทรกซ้อนตามมา


สาเหตุ

เกิดจากความไม่รู้ การเล่นซน หรือความประมาทเลินเล่อ

อาการ

เด็กจะมีอาการคัดจมูก แน่นจมูก ในข้างที่มีสิ่งแปลกปลอม (ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นข้างเดียว) หรือหายใจผ่านรูจมูกได้สะดวกเพียงข้างเดียว หรือหายใจมีเสียงดังวี้ด ๆ หรือหายใจทางปาก อาจมีอาการปวดศีรษะข้างเดียวกับจมูกข้างที่มีสิ่งแปลกปลอม หรือมีอาการไอบ่อย (เนื่องจากมีน้ำมูกไหลลงคอ เกิดการระคายคอ) เด็กเล็กที่ยังสื่อสารไม่ได้ อาจแสดงอาการกระสับกระส่าย ใช้นิ้วแหย่ แคะ หรือดันจมูกบ่อย ๆ

ในระยะแรกอาจมีอาการของเหลวคล้ายน้ำมูกไหลออกจากจมูก อาจมีลักษณะใส หรือสีเทา หรือมีเลือดปน หรือมีเลือดกำเดาไหล ต่อมาจะมีอาการหายใจมีกลิ่นเหม็น และจมูกข้างที่มีสิ่งแปลกปลอม (มักเป็นข้างเดียว) มีน้ำมูกข้นสีเหลืองหรือเขียว หรือมีลักษณะเป็นหนองหรือเลือดปนหนอง และอาจมีไข้ร่วมด้วย


ภาวะแทรกซ้อน

หากปล่อยไว้มักทำให้เยื่อจมูกอักเสบเป็นหนอง และอาจมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น แผลที่เยื่อเมือกจมูก ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน เนื้อเยื่อรอบกระบอกตาอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น

ถ้าสิ่งแปลกปลอมหลุดลงไปในหลอดลม ก็อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในหลอดลมและปอด เช่น ปอดอักเสบ หลอดลมพอง ปอดแฟบ ฝีในปอด เป็นต้น

สำหรับสิ่งแปลกปลอมที่เป็นถ่านกระดุม (button battery ซึ่งใช้กับของเล่นและอุปกรณ์ต่าง ๆ) หากปล่อยไว้สารเคมีในถ่านอาจรั่วไหลออกมาทำลายเนื้อเยื่อในโพรงจมูก เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น แผลที่เยื่อเมือกจมูกหรือผนังจมูก ผนังจมูกทะลุ โพรงจมูกตีบ ปีกจมูกยุบ เป็นต้น อันตรายจากถ่านกระดุมนี้มักเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 3-6 ชั่วโมง (อาจพบได้เร็วสุดหลังเกิดเหตุเพียง 1-2 ชั่วโมง)


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก

ตรวจพบจมูกข้างหนึ่งมีของเหลวคล้ายน้ำมูกไหล หรือมีน้ำมูกข้นสีเหลืองหรือเขียว หรือมีลักษณะเป็นหนองหรือเลือดปนหนอง หรือมีเลือดกำเดาไหล บางรายอาจตรวจพบอาการที่จมูกทั้ง 2 ข้าง หายใจมีเสียงดังวี้ด ๆ หรือมีไข้

เมื่อเอาไฟฉายส่องดู อาจพบสิ่งแปลกปลอมคาอยู่ในรูจมูกจมูกข้างหนึ่ง

ในรายที่จำเป็นต้องวินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น เอกซเรย์ ใช้กล้องส่องตรวจจมูก (rhinoscopy) เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

1. เอาสิ่งแปลกปลอมออก 

    หากสิ่งแปลกปลอมอยู่ไม่ลึก ใช้ลวดเล็ก ๆ ตรงปลายงอเล็กน้อยแยงรอดใต้สิ่งแปลกปลอมจนพ้นขอบหลังสุด แล้วเกี่ยวเอาออก
    ถ้าสิ่งแปลกปลอมอยู่ลึก ใช้เครื่องมือจับ คีบ เขี่ย หรือดูดออก 

2. ถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ให้ยาปฏิชีวนะ เช่น โคอะม็อกซิคลาฟ, อะม็อกซีซิลลิน, ร็อกซิโทรไมซิน หรือโคไตรม็อกซาโซล นาน 7-10 วัน

ผลการรักษา ส่วนใหญ่สามารถเอาสิ่งแปลกปลอมออกและไม่มีภาวะแทรกซ้อนตามมา ส่วนน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากปล่อยให้สิ่งแปลกปลอมคาอยู่นาน เกิดจากถ่านกระดุมเข้าจมูก หรือสิ่งแปลกปลอมหลุดลงไปในหลอดลม มักมีความยุ่งยากในการรักษา และอาจมีภาวะแทรกซ้อนตามมาได้


การดูแลตนเอง

1. หากพบตั้งแต่แรก ยังไม่มีอาการผิดปกติ และมองเห็นสิ่งแปลกปลอมอยู่ตื้น ๆ ให้ทำการปฐมพยาบาลดังนี้

    ให้เด็กสั่งน้ำมูกแรง ๆ โดยปิดรูจมูกข้างที่ปกติ หรือใช้ปากคีบหรือแหนบค่อย ๆ คีบวัตถุนั้นออก ระวังอย่าดันให้วัตถุลึกเข้าไปในจมูก ห้ามใช้นิ้วมือ ไม้พันสำลี หรืออุปกรณ์ใด ๆ พยายามเขี่ยเอาสิ่งแปลกปลอมออก เพราะอาจดันให้สิ่งแปลกปลอมลึกเข้าไป
    ถ้าเด็กอยู่ไม่นิ่ง หรือไม่ให้ความร่วมมือ หรือทำการปฐมพยาบาลดังกล่าวไม่ได้ผล ควรไปพบแพทย์

2. ควรรีบไปพบแพทย์ ถ้าพบว่าสิ่งแปลกปลอมอยู่ลึก หรือไม่เห็นสิ่งแปลกปลอม หรือมีอาการน้ำมูกเป็นหนองมีกลิ่นเหม็น ควรไปพบแพทย์ด่วน ถ้าเกิดจากถ่านกระดุมเข้าจมูก

ทำการดูแลรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ ไปพบแพทย์ตามนัด และกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีอาการผิดปกติ (เช่น มีไข้ ปวดจมูก มีน้ำมูกเป็นหนองหรือมีเลือดออก) หรือสงสัยเกิดอาการข้างเคียงจากยาที่รักษา


การป้องกัน

คอยระมัดระวัง เก็บเศษวัตถุ (รวมทั้งถ่านกระดุม) ทิ้ง ไม่ให้เด็กหยิบได้

ห้ามปรามและคอยเฝ้าระวังไม่ให้เด็กเล็กเล่นซนเอาสิ่งแปลกปลอม (เช่น เมล็ดผลไม้ เศษอาหาร เศษยางลบ กระดุม ลูกปัด) แหย่ใส่เข้าไปในจมูก


ข้อแนะนำ

หากมีอาการน้ำมูกเป็นหนองมีกลิ่นเหม็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพบในเด็กเล็ก อาจเกิดจากสิ่งแปลกปลอมเข้าจมูกได้ ควรพบแพทย์เพื่อนำสิ่งแปลกปลอมออก


หน้า: [1] 2 3 ... 39